
ในช่วงหลัง ๆ มานี้ขนมไทยเริ่มกลับมาเป็นกระแสมากขึ้น ไม่ใช่เพียงคนสูงอายุหรือวัยกลางคนเท่านั้นที่หันกลับมาสนใจขนมไทย แต่เป็นวัยรุ่นเสียส่วนใหญ่ แต่ขนมไทยก็ต้องยอมรับว่าทำยากมาก ให้ซื้อกินยังง่ายกว่า แต่ก็จะพบกับปัญหาอีกสิ่งหนึ่งคือร้านขนมไทยค่อนข้างน้อยแล้ว วันนี้เลยจะพาทุกคนไปทดลองทำขนมหวานไทยง่าย ๆ อย่าง อาลัว ขนมไทยไซส์เล็กสีสันสดใส ไม่ว่าใครก็ชอบกิน ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไรก็ตามมากันได้เลย
ทำอาลัวอยู่บ้านแบบชิล ๆ

ส่วนผสมของอาลัวจะมี
1.แป้งสาลี
2.แป้งถั่วเขียว
(คำถามที่สำคัญมาก ๆ คืออาลัว ใช้แป้งอะไร จากหลาย ๆ สูตรขอบอกเลยว่าการใช้สองแป้งนี้รวมกันจะอร่อยมาก ๆ)
3.น้ำตาลทราย
4.เกลือ
5.กะทิ
6.กลิ่นมะลิ (เพื่อความหอม สามารถเปลี่ยนเป็นกลิ่นอื่นก็ได้ หรือจะไม่ใส่เลยก็ได้เช่นเดียวกัน)
7.สีผสมอาหาร (สามารถเลือกสีที่ต้องการได้เลย)

อาลัว วิธีทำจะมีขั้นตอนอยู่ 2 ขั้นตอนหลัก ๆ คือในส่วนของการทำแป้งและการอบ
1.การทำแป้งอาลัวนั้นจะเริ่มจาก นำแป้งสาลี แป้งถั่วเขียว น้ำตาลทราย เกลือ เทใส่กระทะและคนทุกอย่างให้ละลายรวมกันเป็นเนื้อเดียว
2.ใส่สีผสมอาหารและคนให้ละลายทั่ว (แนะนำว่าค่อย ๆ ใส่เพื่อระวังไม่ให้สีเข้มเกินความต้องการ)
3.จากนั้นเปิดเตาไปที่ไฟอ่อนสุด ค่อย ๆ กวนแป้งจนสุกและพักให้แป้งอุ่นลง (กวนจนแป้งดูมีสีใส)
ขั้นตอนต่อไปเป็นการอบขนมอาลัว มีหลายคนกังวลใจมากว่าอาลัว ใช้เตาอบแบบไหนความจริงแล้วสามารถใช้วิธีทำอาลัว เตาอบหรือจะทำอาลัว ไมโครเวฟก็ได้เช่นกัน เพียงแค่จะต้องคอยหมั่นเปิดดูขนมอย่างต่อเนื่อง ส่วนวิธีอบนั้นจะเป็น
1.หลังจากนำแป้งมาพักให้ยังอุ่นอยู่ จากนั้นนำใส่ถุงบีบและนำหัวบีบรูปดาวมาใช้ (หากใครอยากได้อาลัวดอกไม้หรือรูปแบบอื่นก็สามารถนำมาใช้ได้)
2.บีบแป้งบนกระดาษไขที่รองถาดอบไว้ให้ห่างมีช่องไฟพอดี ไม่ติดกันเกินไป
3.นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 60-100 องศาเซียลเซียสเป็นเวลา 30-1 ชั่วโมง ทำแบบนี้ทั้งหมด 4 รอบ หรือหากใครที่ไม่มีเตาอบอะไรเลย ก็สามารถใช้สูตรโบราณซึ่งเป็นวิธีทำอาลัว ไม่อบโดยการนำไปตากแดด 2-4 วัน นั่นเอง

อาลัว ขนมไทยทำง่ายเก็บได้นาน
ก็จบลงไปแล้วสำหรับอาลัว ขนมหวานไทยโบราณที่อร่อย กินได้เพลิน ๆ ไม่มีเบื่อ สำหรับสูตรอาลัวที่นำมาฝากทุกคนในวันนี้สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง หากใครที่กำลังสงสัยว่าอาลัวสด เก็บได้กี่วัน สามารถเก็บไว้ไประมาณ 7 วันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าทำแป้งครั้งเดียวแล้วค่อย ๆ แบ่งทำเป้นขนมได้ตลอด