ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เมนูยอดฮิต อย่าง นมอบชีส เนี่ย ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองมาได้สักระยะใหญ่แล้ว เพราะเป็น ของทานเล่นง่าย ๆ ที่ภายนอกดูน่ากินเอามาก ๆ แถมยังเป็นความหวานมันเค็มลงตัวด้วย นม ชีส แป้ง และ ไข่ ทำกินเองก็สะดวกสบาย ใช้เตาอบก็ได้ หรือ ไม่ใช้ก็ได้ มันจึงเป็นขนมที่เหมาะแก่การทำกินเองที่บ้าน หรือจะทำขาย ก็ได้ทั้งนั้น
นมอบชีส หรือ นมสดอบชีส มีวิธีการทำที่ง่ายแสนง่าย เราจึงมาบอก วิธีทำนมอบชีส พร้อมสูตรที่ปรับเปลี่ยนนิดหน่อยตามแบบฉบับจีน แบบนี้ไปดูส่วนผสมกันดีกว่าว่าต้องใช้อะไรบ้าง
ส่วนผสมในการทำ นมอบชีส
- ไข่แดง 2 ฟอง
- แป้งข้าวโพด 50 กรัม
- น้ำตาลทราย 50 กรัม
- นมสด 500 กรัม
- เชดด้าชีส 1 แผ่น
- ไข่แดง และ น้ำมะนาว สำหรับทาหน้าขนม
วิธีทำนมอบชีส
- นำไข่แดง 2 ฟอง มาใส่ในกระทะ ตามด้วย แป้งข้าวโพด น้ำตาลทราย นมสด คนให้ผสมกันโดยที่ยังไม่ต้องเปิดเตา ทำให้แป้ง และ น้ำตาล ละลายให้หมด
- พอละลายเข้ากันดี ให้ใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน แล้วคนส่วนผสมตลอดเวลา ห้ามหยุด
- พอส่วนผสมเริ่มร้อนแล้ว ให้ใส่เชดด้าชีสลงไป คนให้ชีสละลายเข้ากันดี คนเรื่อย ๆ ห้ามหยุด ส่วนผสมจะข้นขึ้นเร็วมากต้องคอยระวังให้ดี คนจนให้ส่วนผสมข้นหนืดจนได้ที่ ปิดเตาแล้วยกลง
- นำออกมาคนต่อให้เนื้อเนียน นำไปเทใส่พิมพ์สี่เหลี่ยมที่รองด้วยพลาสติกแรปอีกที (อาจใช้กล่องขนาด 11×16.5 ซม.) พอเทจนหมด ปิดหน้าด้วยถุงแกง หรือ พลาสติกแรป อีกทีให้แนบกับตัวเนื้อขนม ใช้การ์ดหรืออะไรเรียบ ๆ มารูดให้เนื้อขนมเรียบเนียน
- นำแม่พิมพ์ที่บรรจุส่วนผสมไปวางไว้บนภาชนะที่ใส่น้ำเพื่อคลายความร้อน แล้ววางทิ้งไว้ 30 นาที
- เสร็จแล้วนำไปแช่ตู้เย็นให้เซตตัวประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- เมื่อครบเวลาจนขนมเซตตัวดีแล้ว นำมาตัดเป็นท่อนตามต้องการ (เวลาตัดให้ใช้แรงกดลงไปตรง ๆ เพราะเนื้อขนมนิ่มมาก)
- เตรียมถาดและกระดาษไขรองอบ นำขนมมาเรียงให้มีระยะห่างพอสมควร จากนั้นนำไข่แดง ที่ผสมมะนาวแล้วมาผสมให้เข้ากัน และทาให้ทั่วบริเวณหน้าขนม
- นำเข้าเตาอบที่มีการวอมเตาไว้ก่อนแล้ว อบที่อุณหภูมิ 200 องศา ไฟบน-ล่าง ประมาณ 25 นาที ต่อด้วยไฟบนอย่างเดียวอีก 2-4 นาที เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ สูตร นมอบชีส แบบฉบับจีน ที่มีการเติมน้ำตาลขึ้นมา 2 เท่า แต่ไม่ได้ทำให้ขนมหวานจนเกินไป แต่ถ้าหากใครไม่ชอบหวานมาก แต่ชอบรสชาติความมันแบบเดิมก็ลดน้ำตาลลงได้ ขนมนมอบชีส มีวิธีทำที่ง่าย และ วัตถุดิบที่ไม่เยอะ จะลองปรับนำไปวางบนขนมปังแล้วอบอีกทีก็ได้นะ น่ากินไปอีกแบบ แบบนี้แล้วไม่ลองทำกินเองได้ยังไง ไปลองทำกันเลยดีกว่า