Categories
ขนมไทย

มาเรียนรู้วิธีทำ ลูกชุบขนมไทยยอดฮิตไปพร้อมกัน

เชื่อเลยว่า ขนมลูกชุบ น่าจะเป็นขนมไทยที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่น้อยคนจะที่จะรู้ว่าขนมชนิดนี้มีวิธีทำอย่างไร วันนี้เราจะมาแนะแนวทางวิธีทำลูกชุบ แบบใช้พิมพ์เพื่อปั้นลูกชุบไม่ให้แตกกัน บอกเลยว่าการทำขนมชนิดนี้คุณสามารถที่จะทำกันเป็นกิจกรรมครอบครัวสานสัมพันธ์ และเกิดความสนุกสนานได้อีกด้วย พร้อมแล้วมาเริ่มทำไปด้วยกันเลยดีกว่า

วัตถุดิบในการทำลูกชุบขนมไทย

ถั่วเขียวเลาะเปลือกพร้อมนึ่ง  500 กรัม

น้ำตาลทราย 300 กรัม

หัวกะทิ 1 ถ้วย

สีผสมอาหาร  จำนวนตามใจชอบ

ผงวุ้น

วิธีทำลูกชุบ

1. นำถั่วเขียวหนึ่งที่เตรียมไว้มาปั่นรวมกับน้ำตาลและกะทิจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน

2. นำส่วนผสมที่เข้ากันดีแล้วมาเทลงในกระทะจากนั้นทำการเคี่ยวจนถั่วปั้นเป็นลูกได้

3. เตรียมถ้วยมาให้เท่ากับจำนวนของสีผสมอาหารที่คุณต้องการ พร้อมทั้งเตรียมอุปกรณ์การระบายสีเอาไว้ให้เรียบร้อย

4. จากนั้นเตรียมเริ่มทำการตกแต่งด้วยการหาไม้ปลายแหลมมาเสียบที่ก้อนถั่ว โดยการปั้นก้อนถั่วเป็นรูปต่าง ๆ ที่ต้องการ และทำการเสียบพักไว้

5. เมื่อปั้นเรียบร้อยตามที่ต้องการคุณสามารถเริ่มตกแต่งแล้วนำไปตากให้สีแห้งกันได้เลย 6. ทำการละลายผงวุ้นแล้วนำขนมที่สีแห้งมาชุบ เพื่อให้เกิดความเงาขึ้น และถ้าคุณต้องการความหนาสามารถชุบซ้ำสองรอบได้

ลูกชุบ ถือเป็นขนมไทยที่ได้รับความนิยมและมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ยิ่งถ้าคุณนั้นทำด้วยวิธีทำ ลูกชุบ แบบใช้พิมพ์ และยังเรียนรู้การปั้นลูกชุบไม่ให้แตกอย่างชำนาญแล้วรับรองว่าคุณจะสนุกและอาจทำเมนูนี้ขายเป็นอาชีพเสริมกันได้เลยทีเดียว

Categories
ขนมไทย

มารู้จักขนมไทยยอดฮิตอย่าง ขนมถ้วยฟู กัน

หนึ่งในขนมไทยที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดต้องมีชื่อของ ขนมถ้วยฟู ติดอันดับอยู่อย่างแน่นอน ขนมชนิดนี้ถือว่าเป็นขนมมงคลมักจะใช้ในหลาย ๆ โอกาส เพราะมีความหมายที่คล้ายกับความเฟื่องฟูรุ่งเรืองนั่นเอง

วันนี้เราจะพาคุณมาลองทำขนมถ้วยฟูด้วยตัวเองกัน บอกเลยว่าวิธีทำไม่ยาก มีลูกเล่นที่สีสันออกแบบได้ตามต้องการ และทุกคนทำได้อร่อยกันอย่างแน่นอน

วัตถุดิบของขนมถ้วยฟู

แป้งสาลี                        200      กรัม

ผงฟู                              1          ช้อนชา

ไข่ไก่สด                         2          ฟอง

น้ำ                                100      กรัม

น้ำมะนาว                      1          ช้อนชา

กลิ่นมะลิ                       ½         ช้อนชา

น้ำตาล                          180      กรัม

SP                                10        กรัม

นมข้นจืด                       50        กรัม

สีผสมอาหาร                              สีตามที่ชอบหรือต้องการกันได้เลย

วิธีทำเค้กถ้วยฟู

1. เตรียมน้ำเปล่าใส่ถังเอาไว้ประมาณ 3ใน 5 ของถัง จากนั้นนำผ้าขาวบางมาห่อฝาเพื่อทำการปิดลังเอาไว้ วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหยดใส่ขนม

2. ร่อนแป้งและผงฟูเข้าด้วยกัน จากนั้นทำการพักไว้

3. ตีไข่ไก่ น้ำตาล และ SP ด้วยกันในความเร็วสูงสุดประมาณ 5 นาที หรือตีจนสังเกตได้ถึงความข้นเหนียวระหว่างนี้ก็เตรียมเตานึ่ง โดยทำการตั้งไฟแรงสุดจนน้ำเดือด

4. เติมแป้งถ้วยฟูพร้อมผงฟูที่ร่อนไว้ลงไปตีแต่ต้องค่อย ๆ เติมลงไปทีละน้อยและตีช้า ๆ จนแป้งหมด จากนั้นตีต่ออีก 1 นาที

5. เติมนมจืด น้ำมะนาว และกลิ่นมะลิลงไป จากนั้นเริ่มเปลี่ยนมาตีด้วยความเร็วสูงอีก 5 นาที สลับกลับมาตีเบาอีก 1 นาที เพื่อไล่ฟองอากาศ

6. แบ่งส่วนผสมตามสีที่ต้องการ ขั้นตอนนี้ไม่จำกัดสามารถทำได้ตามที่คุณต้องการ โดยทำการหยอดสีลงที่ขนมทีละหยด คนให้สีเข้ากับแป้งและเพิ่มลดความเข้มอ่อนได้ตามที่ชอบ

7. เตรียมถ้วยกระดาษรองด้วยพิมพ์อลูมิเนียม ตักแป้งเติมลงให้เต็มถ้วย

8. วางขนมลงไปในหม้อนึ่ง หรี่ไฟให้เป็นไฟอ่อน นึ่งประมาณ 15 นาที

muffin cup cake or cotton-wool cake dessert thailand.

เมนูนี้มีความสนุกและน่าสนใจอยู่ที่สีของ ขนมถ้วยฟู นั่นเอง ถ้าใครอยากลองทำขนมไทยสไตล์น่ารักบอกเลยว่าไม่ควรพลาดเมนูนี้ รับรองว่าเป็นเมนูที่ทั้งอร่อยและเป็นมงคลในเวลาเดียวกันอย่างแน่นอน

Categories
ขนมไทย

ขนมตาล ขนมไทยที่คุณไม่ควรพลาดการทำด้วยตัวเอง

ต้องบอกเลยว่าไทยเรานั้นโดดเด่นในเรื่องของอาหารการกินและขนมมากเป็นพิเศษ อย่างที่พอจะรู้ว่าขนมไทยนั้นมีหลากหลาย เช่น ขนมตาล และแต่ละชนิดยังมีรายละเอียดที่แสนจะมีเสน่ห์อีกด้วย

นี่คือเมนูขนมไทยที่ถือว่าเป็นของว่างไทยง่าย ๆ เลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่ชอบทานขนมตาลอยู่แล้วลองหันมาทำเองก็น่าจะช่วยเพิ่มความเพลิดเพลินและเป็นกิจกรรมคลายเครียดที่ดีไม่น้อย รับรองว่าสูตรนี้ทำแล้วอร่อยไม่แพ้เจ้าดังอย่างแน่นอน

วัตถุดิบในการทำขนมตาล

น้ำตาลทราย                  400      กรัม

กะทิ                              3          ถ้วย

เนื้อลูกตาลสุก                400      กรัม

แป้งข้าวเจ้า                    500      กรัม

ผงฟู                              1          ช้อนโต๊ะ

มะพร้าวขูดเส้นเล็ก         2          ถ้วย

เกลือ                                         เล็กน้อยไว้ใช้คลุกมะพร้าว

วิธีทำขนมตาลของว่างไทยง่าย ๆ

1. เริ่มจากการนำน้ำตาลมาละลายในกะทิ จากนั้นคนเบา ๆ ให้เข้ากันแล้วใส่เนื้อลูกตาลลงไป

2. เติมแป้งข้าวเจ้าและผงฟูลงไปจากนั้นก็ทำการคนให้เข้ากันจนเนื้อเนียน

3. กรองส่วนผสมแล้วพักเอาไว้ประมาณ 10 นาที จนสังเกตได้ว่าขนมขึ้นฟู

4. ใส่น้ำลงในหม้อนึ่งแล้งทำการเรียงถ้วยตะไลตามถนัดเว้นระยะห่างเล็กน้อย เปิดไฟกลางเตรียมอุ่นเอาไว้

5. ตักส่วนผสมหยอดลงในถ้วยตะไลจนเต็ม จากนั้นโรยด้วยมะพร้าวคลุกเกลือ ทำการนึ่งประมาณ 15-20 นาที

6. ยกลงจากเตา พักให้เย็น จากนั้นค่อยแซะออกจากถ้วย และทำการเสิร์ฟถ้วยฟูลูกตาลได้เลย

นี่คือเมนูขนมไทยที่ถือว่าเป็นของว่างไทยง่าย ๆ เลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่ชอบทานขนมตาลอยู่แล้วลองหันมาทำเองก็น่าจะช่วยเพิ่มความเพลิดเพลินและเป็นกิจกรรมคลายเครียดที่ดีไม่น้อย รับรองว่าสูตรนี้ทำแล้วอร่อยไม่แพ้เจ้าดังอย่างแน่นอน

Categories
ขนมไทย

หม้อแกง ที่ไม่ใช่แกงแต่เป็นขนมไทย

เห็นครั้งแรกหลายคนอาจคิด หม้อแกง เป็นขนมไทยที่ทำได้ยาก แต่พอได้รู้จักกับสูตรหม้อแกงโบราณซึ่งเป็นหม้อแกงไข่เนื้อเนียนสูตรนี้กันไปแล้วน่าจะทำให้คุณเริ่มอยากเข้าครัวไปโชว์ฝีมือกันแล้วอย่างแน่นอน สำหรับใครที่สนใจอยากจะรู้จักกับขนมชนิดนี้ให้มากขึ้น

วันนี้เราลองมาดูสูตรและวิธีทำของขนมไทยชนิดนี้กันดีกว่า เผื่อถ้าโดนใจอยากลองทำคุณอาจจะกลายเป็นเชฟขนมไทยคนต่อไปก็เป็นได้

วัตถุดิบขนมไทยสูตรหม้อแกงโบราณ

                ขนมหม้อแกงที่เราหยิบมาแนะนำให้คุณลองทำกันแบบง่าย ๆ ในวันนี้คือ หม้อแกงไข่ ซึ่งบอกเลยว่าคุณจะได้หม้อแกงไข่เนื้อเนียนออกมาทานกันอย่างแน่นอน

หอมแดงซอย                  12        หัว

น้ำมันพืช

ไข่เป็ด                           8          ฟอง

เกลือป่น                        ½         ช้อนชา

กะทิ                              500      กรัม

แป้งข้าวเจ้า                    2          ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลปี๊บ                     1          ถ้วยตวง

ใบเตย                           6          ใบ

วิธีทำหม้อแกงไข่เนื้อเนียน

1. เริ่มจากการเจียวหอมแดงด้วยน้ำมันพืชพอหอมเริ่มเป็นสีเหลืองให้ตักขึ้นพักและนำน้ำมันตักเก็บใส่ถ้วย

2. ตอกไข่ใส่ชามและทำการใส่เกลือป่นลงไปจากนั้นตีไข่ให้ขึ้นฟู

3. ผสมไข่ กะทิ แป้ง น้ำตาลปี๊บ และใบเตย แล้วขยำให้เข้ากัน สังเกตจนน้ำตาลละลาย แล้วค่อยนำส่วนผสมที่ได้ไปกรองกับผ้าขาวบาง

4. ใช้น้ำมันที่เหลือจากการเจียวหอมมาทาให้ทั่วพิมพ์อบ แล้วทำการเทส่วนผสมที่กรองแล้วใส่พิมพ์ จากนั้นนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิประมาณ 175 องศาฯ อบประมาณ 30 นาที อาจเพิ่มลดเวลาด้วยการสังเกตความสุก 5. เมื่อสุกแล้วให้ทาหน้าขนมด้วยน้ำมันที่เจียวหอมแดง และทำการโรยหน้าด้วยหอมเจียว เพียงเท่านนี้ก็พร้อมตัดหม้อแกงเป็นชิ้นเสิร์ฟกันแล้ว

เห็นครั้งแรกหลายคนอาจคิดหม้อแกงเป็นขนมไทยที่ทำได้ยาก แต่พอได้รู้จักกับสูตรหม้อแกงโบราณซึ่งเป็นหม้อแกงไข่เนื้อเนียนสูตรนี้กันไปแล้วน่าจะทำให้คุณเริ่มอยากเข้าครัวไปโชว์ฝีมือกันแล้วอย่างแน่นอน

Categories
ขนมไทย

สาคู ขนมไทยที่ทำง่ายกว่าที่คิด

https://www.pintosiam.com/product/dtd07/

หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของเมนูขนมไทยอย่าง สาคู กันแน่นอน แต่เชื่อว่าหลายคนไม่ทราบว่าขนมไทยชนิดนี้สามารถทำได้ง่ายกว่าที่คิด วันนี้เราจะพาคุณเข้าครัวทำขนมชนิดนี้ไปพร้อมกัน บอกเลยว่าไม่ยุ่งยากแถมคุณจะกลายเป็นเซียนของเมนูของหวานไทยโบราณจนอาจกลายเป็นอาชีพเสริมของคุณกันได้เลยทีเดียว

https://www.pinterest.com/pin/755338168730991840

วัตถุดิบในการทำสาคูเปียกข้าวโพด

สาคูเม็ดเล็ก                   ½         ถ้วย

ข้าวโพดต้ม                    1          ฟัก

หัวกะทิ                          ½         กล่อง

น้ำเปล่า                         2          ถ้วย

น้ำตาล                          3          ช้อนโต๊ะ

เกลือ                                         ตามความชอบ

วิธีต้มสาคูเปียกข้าวโพด

1. ล้างสาคูด้วยน้ำสะอาดประมาณ 1-2 รอบ

2. ตั้งน้ำไว้ให้เดือด เมื่อเดือดแล้วให้เบาไฟลง และใส่สาคูลงไป จากนั้นต้มไปเรื่อย ๆ จนสุก

3. ใส่น้ำตาลคนจนน้ำตาลเริ่มละลาย ใส่ข้าวโพดต้มที่ผ่านการฝานเรียบร้อยแล้วลงไป จากนั้นตักขึ้นและพักไว้

4. เทกะทิลงไปจากนั้นปรุงด้วยเกลือจนดีรสชาติที่ชอบ ตั้งไฟจนเดือด แล้วเบาไฟลง คนจนเริ่มเหนียวเล็กน้อยแล้วจึงปิดไฟ และนำไปพักไว้

https://www.pinterest.com/pin/755338168730991840

เมื่อคุณต้องการจะทานนั้นสามารถตักกะทิราดเพิ่มและอาจเพิ่มมะพร้าวขูดเติมลงไปเพื่อเพิ่มลูกเล่นพร้อมกับความอร่อยได้ตามที่ต้องการอีกด้วย เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เมนูสาคูเปียกข้าวโพด ซึ่งเมนูของหวานไทยโบราณเป็นมาทานกันแบบง่าย ๆ และตักได้ในปริมาณที่จุใจกันแล้ว