Categories
ขนมหวาน ขนมไทย หน้าแรก เค้ก

พุดดิ้งนมสด ขนมหวานเนื้อนวลชวนสัมผัสละมุนลิ้น

พุดดิ้งนมสด
ที่มา https://xn--q3cp7eza.net/

พุดดิ้งนมสด เป็นเมนูของหวานที่ยอดนิยมมากที่สุด แต่พึ่งจะมาเป็นที่ยอดนิยมไม่กี่ปีมานี้ แต่กลับได้รับกระแสตอบรับดีมากเลยทีเดียว จนทำให้หลายคนมาทำเมนูพุดดิ้งนมสดขาย ด้วยความที่ราคาขายนั้นถูก คนส่วนมากมักจะซื้อหลายแก้วกลับบ้านเพื่อไปฝากคนที่บ้าน ด้วยความที่เนื้อสัมผัสละมุนหอมนมสดจึงทำให้หลายคนนั้นติดใจและกินมาเรื่อย ๆ

พุดดิ้งนมสด ส่วนผสมน้อย ทำง่าย ไว้ทานให้ชื่นใจตอนอากาศร้อน

พุดดิ้ง นมสด เมนู ขนมหวาน ที่ทุกคนนั้นสามารถทำตามได้ง่าย ทำขายก็ปัง ทำทานเองไว้ให้ชื่นใจตอนอากาศร้อน ซึ่ง สูตรพุดดิ้ง นั้นมีหลายสูตรมาก แต่วันนี้ที่เราเอามาฝาก เมนูพุดดิ้งนมสด นั้นมี วัตถุดิบ และ วิธีทำพุดดิ้ง ง่ายๆ ขั้นตอนและวัตถุดิบที่ต้องเตรียมนั้นจะมีอะไรบ้างมาตามดูกันเลย

วัตถุดิบ พุดดิ้งนมสด

  • แผ่นเจลาติน 6 กรัม
  • นมสด 400 กรัม
  • น้ำตาลทราย 60 กรัม
  • วิปปิ้งครีม 120 กรัม
  • กลิ่นวนิลา 2 ช้อนชา
  • ผลไม้ตามใจชอบ

เมนูขนมหวาน คลิกที่นี่

พุดดิ้งนมสด
ที่มา https://www.youtube.com/

วิธีทําพุดดิ้ง ง่ายๆ

  1. นำแผ่นเจลาตินไปแช่ในน้ำเย็นประมาณ 5 นาที
  2. ผสมนมสด น้ำตาลทราย วิปปิ้งครีม ให้ละลายเข้ากันหมด
  3. ตั้งหม้อด้วยไฟอ่อน หลังจากนั้นให้นำ นมสดที่เราผสมไว้แล้วเทลงไป คนด้วยไฟอ่อน หากมีไอลอยขึ้นมาจากนมให้ปิดไฟแล้วนำหม้อต้มลง
  4. บีบน้ำออกจากแผ่นเจลาตินที่แช่น้ำเย็น โดยต้องบีบน้ำออกให้หมด แล้วนำแผ่นเจลาตินที่บีบเสร็จแล้วใส่ลงไปในหม้อแล้วคนให้จนกว่าแผ่นเจลาตินจะละลายเป็นเนื้อเดียวกับนมสด
  5. เทนมสดใส่ลงในแก้วหรือภาชนะที่เตรียมไว้ 
  6. นำไปแช่ในตู้เย็นเป็นเวลา 4-6 ชั่วโมง เพื่อให้พุดดิ้งมันเซ็ทตัว
  7. เมื่อครบเวลาแล้ว นำออกมาตกแต่งด้วยผลไม้ที่เตรียมไว้ เป็นเสร็จเรียบร้อย

สำหรับ สูตรพุดดิ้งนมสด นั้นมีวิธีทำที่ง่ายมาก ทั้ง วิธีทําพุดดิ้ง มะพร้าวอ่อน , วิธี ทํา พุดดิ้งไข่ หรือ วิธี ทํา พุดดิ้ง ไม่ใช้ เจ ลา ติ น ไม่จำเป็นที่ต้องเตรียมของมากมายเหมือน เมนูขนมหวาน อื่น ๆ หากใครอยากกินไว ๆ หรือทำไปขายนั้น แอดขอแนะนำว่าให้ทำล่วงหน้าก่อนวันนั้น 1 คืนเลย ตื่นเช้ามาก็สามารถกินให้ชื่นใจสบาย ๆ หรือเตรียมตัวเอาไปขายได้เลย

เมนูพุดดิ้งนมสด ขายยังไงก็ปังไม่เหลือกลับบ้านแน่นอน

เมนูพุดดิ้งนมสด ส่วนมากนั้นจะขายราคาอยู่ที่ 20-30 บาท ต้องตกแต่งให้ดูมีความน่าทาน และมีความอร่อยสดใหม่อยู่เสมอ ใครได้กินก็ติดใจอย่างแน่นอน

Categories
ขนมหวาน หน้าแรก เค้ก

คุกกี้ ปีใหม่ ขนมยอดฮิตทำรายได้สุดปังในช่วงเทศกาลปีใหม่

คุกกี้ ปีใหม่

คุกกี้ ปีใหม่ ขนมทานเล่นที่สามารถทำรายได้สุดปังในช่วงเทศกาลสำคัญอย่าง วันปีใหม่ คุกกี้มักจะถูกนำไปมอบเป็น ของขวัญ ให้กับญาติพี่น้อง ผู้ใหญ่ที่เคารพ หรือเพื่อน ๆ พี่ ๆ คนรักของคุณ เพื่อเป็นของแทนใจ บางคนที่ไม่ได้ไปเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่นั้นก็อาจจะหารายได้เพิ่มเติมอยู่ที่บ้าน รับรองว่ายอดถล่มทลายเยอะอย่างแน่นอน ส่วนใหญ่คนที่ไม่ชอบทำอาหาร มักจะซื้อเพื่อประหยัดเวลาในการทำแทน

คุกกี้ ปีใหม่ แจกสูตรคุกกี้ง่าย ๆ เตรียมของน้อยทำไว

ไอเดียคุกกี้ปีใหม่ มักจะถูกนึกถึงมากที่สุดในช่วงปีใหม่ หลายคนก็เริ่มจะหาร้านสั่ง คุกกี้ ของขวัญ และดู ราคาคุกกี้ปีใหม่ ในแต่ละเจ้าแล้ว แต่สำหรับบางคนนั้นมีเวลาว่างอาจจะอยาก ลองทำขาย นั้นไม่เสียหาย เพราะ สูตรคุกกี้ปีใหม่ ที่เราเอามาฝากกันรับรองว่าอร่อยแน่นอน เอาเงินเข้ากระเป๋าได้อย่างง่ายดาย มาตามดู ส่วนผสมคุกกี้ปีใหม่ และ วิธีทำคุกกี้ปีใหม่ อย่ารอช้ากันเลย

คุกกี้ ปีใหม่

ส่วนผสม คุกกี้

  • เนยจืด 120 กรัม
  • น้ำตาลมะพร้าว 50 กรัม
  • น้ำตาลทรายขาว 50 กรัม
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 200 กรัม
  • กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • ผงฟู ½ ช้อนชา
  • เกลือ ½ ช้อนชา
  • เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
  • ช็อคโกแลตชิพ 150 กรัม

วิธีทำ คุกกี้ปีใหม่

  1. ละลายเนยจืดในชาม ตามด้วยน้ำตาลมะพร้าวและน้ำตาลทรายลงไป คนให้ละลายเข้ากัน
  2. ใส่ไข่ไก่ลงไป ตามด้วนกลิ่นวนิลา ตีให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
  3. ร่อนแป้งอเนกประสงค์ ตามด้วย ผงฟู เกลือ เบกกิ้งโซดา ลงไป ตีให้เนื้อเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
  4. ใส่ช็อคโกแลตชิพลงไปในชามผสมให้เข้ากันกับเนื้อแป้ง
  5. ตักแป้งคุกกี้ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ละวางในถาด โดยเว้นระยะห่างกันเพื่อให้คุกกี้ตอนอบได้ฟูเต็มที่
  6. นำ คุกกี้ ไปพักในตู้เย็นเวลา 45 นาทีก่อนเข้าเตาอบเพื่อให้แป้งเซ็ตตัว
  7. นำไปอบที่อุณหภูมิที่ 180 องศา ระยะเวลา 15-20 นาที ก่อนเอาลงใส่กล่องให้เอาคุกกี้พักไว้ 5 นาที เพื่อไม่ให้กล่องโดนความร้อนมากจนเกินไป

นอกจาก สูตรคุกกี้ ที่เราเอามาฝากกันจะเป็นวิธีทำที่ง่าย คุกกี้อาร์เซนอล สามารถหารายได้เสริมหรือทำไปแจกญาติผู้ใหญ่กันได้เลย

สูตร คุกกี้ปีใหม่ คลิกที่นี่

หากใครกำลังมองหา คุกกี้ปีใหม่ยี่ห้อไหนอร่อย ที่มี กล่องคุกกี้ปีใหม่ สวยงามเอาไว้ซื้อ คุกกี้อร่อยที่สุดในโลก ทานเองหรือซื้อ คุกกี้แบรนด์ดัง ฝากเป็นของขวัญ คุกกี้ S&P ก็ลองทำตามสูตรที่เราแนะนำได้เลยค่ะ คุกกี้ยี่ห้อไหนอร่อย pantip บอกเลยว่าทำขายก็รุ่งทำให้ใครกินก็ติดใจกันอย่างแน่นอน

Categories
ขนมหวาน

เต้าฮวยฟรุตสลัด เมนูของหวานละมุน เนื้อเนียนเด้ง อร่อยมาก

เต้าฮวยฟรุตสลัด เป็นเมนูของหวาน สดชื่นเย็นใจ ที่หาทานได้ง่ายมาก ๆ โดยเฉพาะถนนคนเดิน หรือตลาดนัด มักจะเจอคนนำมาขายบ่อย ๆ แต่ว่าจะหาร้านที่ถูกใจก็ไม่ค่อยมี อยากจะทานแบบเข้มข้น หวาน ละมุน และกลมกล่อม ดังนั้นวันนี้จะมาสอนทุกคนทำเมนูเต้าฮวยสูตรนี้ บอกเลยว่าเด็ด เนื้อเนียนเด้ง เวลาทานเหมือนละลายอยู่ในปาก ตัดกับรสชาติเปรี้ยวหวานของผลไม้ที่นำมาทำเป็นฟรุตสลัด เข้ากันเป็นอย่างมาก ซึ่งผลไม้ที่สามารถนำมาทำเป็นฟรุตสลัด ได้แก่ สตรอเบอร์รี่ สับปะรด แก้วมังกร และองุ่น เป็นต้น

เต้าฮวยฟรุตสลัด มีส่วนผสม และวัตถุดิบในการทำอะไรบ้าง

เต้าฮวยฟรุตสลัดส่วนผสม และวัตถุดิบในการทำน้อยมาก โดยเต้าฮวยฟรุตสลัด ส่วนผสม จะแบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ สำหรับทำเต้าฮวย และสำหรับทำฟรุตสลัดนั่นเอง สูตรเต้าฮวย ฟรุตสลัด ทำขายจะมีต้นทุนไม่สูง แก้วหนึ่งประมาณ 10 บาท แต่ขายได้ถึง 20-25 บาท เลยทีเดียว ดังนั้นมาดูกันเลยว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง

ส่วนผสมสำหรับทำเต้าฮวย

1. เจลาตินชนิดแผ่น                           2                   แผ่น

2. น้ำเย็น (สำหรับแช่เจลาติน)             1                   ถ้วยตวง

3. ผงวุ้น                                        2                   ช้อนชา

4. นมสดชนิดจืด                               3                   ถ้วยตวง

5. นมข้นจืดคาร์เนชัน                         100               กรัม

6. คาร์เนชันนมข้นหวาน                     1/2                ถ้วยตวง

ส่วนผสมสำหรับฟรุตสลัด

1. น้ำตาลทราย                                1/4                ถ้วยตวง

2. น้ำเปล่า                                      1/4                ถ้วยตวง

3. ผลไม้ตามชอบ หั่นเต๋าเล็ก อาทิ สับปะรด องุ่น สตรอเบอร์รี่ เป็นต้น จัดเตรียมให้ครบ แล้วจากนั้นก็เข้าครัวลงมือทำขนมหวานชนิดนี้ได้เลย ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จแล้วทุกคน

แจกสูตรทำเมนูขนมหวานเต้าฮวย ใส่ฟรุตสลัด ทานแล้วสดชื่นมาก

เต้าฮวยฟรุตสลัดสามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ทำตาม สูตร เต้าฮวยฟรุตสลัด ที่นำมาแบ่งปันทุกคนก็สามารถทำออกมาได้อร่อย น่าทานอีกด้วย ดังนั้นมาดูกันว่าเต้าฮวยฟรุตสลัด วิธีทำ มีกี่ขั้นตอน และทำอย่างไรบ้าง

วิธีทำเต้าฮวยราดหน้าด้วยฟรุตสลัด

1. นำผงเจลาติน ใส่ลงไปในน้ำ แช่ไว้ประมาณ 5 นาที เมื่อเจลาตินอิ่มตัว ก็ใส่นมสดชนิดจืด และนมข้นจืดลงไป นำหม้อตั้งไฟอ่อน ๆ ให้พอร้อน ใส่วุ้นลงไปรอให้ละลาย นำเจลาตินที่อิ่มน้ำลงไปละลายเข้าด้วยกัน ใส่นมข้นหวานลงไป ตีให้เข้ากัน

2. นำไปกรอง การกรองจะช่วยให้เนื้อเต้าฮวยเนียน แล้วตักใส่ถ้วย รอให้อุ่น ๆ นำไปแช่ตู้เย็นช่องธรรมดา ประมาณ 30 นาที

3. นำผลไม้ทีชอบมาหั่นเป็นลูกเต๋า ใส่น้ำตาลลงไป ตามด้วยน้ำนำไปตั้งไฟ เคี่ยวจนน้ำตาลเหนียวหนืด และต้มให้เดือดประมาณ 3 นาที รอให้อุ่น แล้วนำเข้าแช่ในตู้เย็น

4. นำเต้าฮวยที่แช่เย็นออกมา ราดหน้าด้วยฟรุตสลัด พร้อมรับประทานเต้าฮวยฟรุตสลัดมีขั้นตอนการทำเพียงเท่านี้ 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ก็ทำออกมาได้อร่อย ขายดีชัวร์ เป็น เมนูขนมทำง่าย ที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองทำ รับรองว่าจะกลายเป็นเมนูของหวานเมนูโปรดอย่างแน่นอน

Categories
ขนมหวาน

เต้าฮวยนมสดมะพร้าว ของหวานหอมอร่อย ทำง่าย ขายดี

เต้าฮวยนมสดมะพร้าว เป็นของหวานยอดนิยม ที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน รสชาติ หวานละมุน นิ่มลื่นคอ ยิ่งแช่เย็นแล้วนำมาทาน สดชื่นมากขอบอก คลายร้อนได้เป็นอย่างดี เมนูนี้สามารถทำเป็นอาชีพได้ เนื่องจากว่าทำง่าย ต้นทุนไม่สูง ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ และเทคนิคอะไรมากนัก ทำขายสร้างกำไรได้งาม เป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้จะมาแจกสูตรสอนทำเมนูเต้าฮวยนมสด ใส่มะพร้าวให้กับทุกคน ได้ลองไปทำทานเองที่บ้าน จะทำทานก็อร่อย หรือจะทำขายก็ได้

เต้าฮวยนมสดมะพร้าว ส่วนผสม และวัตถุดิบที่ต้องเตรียมให้พร้อม ก่อนลงมือทำ

เต้าฮวยนมสดมะพร้าว ก่อนที่จะพาทุกคนเข้าครัวลงมือทำของหวาน ทำง่ายขายดี เมนูนี้ ก่อนอื่นเลย จะต้องมาทำความรู้จักกับส่วนผสม เต้าฮวยนมสดมะพร้าว ว่ามีอะไรบ้าง ที่ต้องจัดเตรียมให้พร้อม เพราะถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป รสชาติอาจจะผิดเพี้ยนได้ ดังนั้นมาดูกันเลยว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง

ส่วนผสมสำหรับทำเต้าฮวย

1. น้ำมะพร้าว             500           มิลลิลิตร

2. น้ำเปล่า                 450           มิลลิลิตร

3. ผงวุ้น                    2               ช้อนชา

4. น้ำตาลทรายขาว     100            กรัม

5. เนื้อมะพร้าวอ่อน      2                ลูก

ส่วนผสมสำหรับทำน้ำราดเต้าฮวย

1.นมสด           500              มิลลิลิตร

2. น้ำเปล่า               450              มิลลิลิตร

3. น้ำตาลทรายขาว  100               กรัม

4. เนื้อมะพร้าวอ่อน     2                  ลูก          

ส่วนผสมในการทำเต้าฮวยนมสด ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน ก็มีเพียงเท่านี้ จะแบ่งสำหรับทำตัวเต้าฮวย และทำน้ำราดเต้าฮวย เห็นไหมว่าส่วนผสม วัตถุดิบไม่เยอะ เป็นของหาง่าย และราคาไม่แพงอีกด้วย ห้ามพร้อมแล้วก็หยิบผ้ากันเปื้อนมาสวมใส่ แล้วเข้าครัวกันเลย

สอนทำเต้าฮวย นมสดหวาน ๆ ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนเคี้ยวกรุบ ๆ ใครทำก็อร่อย

เต้าฮวยนมสดมะพร้าวนอกจากวัตถุดิบน้อยแล้ว วิธีทำ เต้าฮวยนมสดมะพร้าวก็ง่ายแสนง่าย ใช้เวลาในการทำไม่นาน มาดูกันเลยว่า สูตรเต้าฮวยนมสดมะพร้าวที่เป็นสูตรอร่อย ขายดี มีวิธีการทำอย่างไร

วิธีการทำตัวเต้าฮวย

1. ตั้งหม้อ เปิดไฟปานกลาง ใส่น้ำเปล่า และนำมะพร้าวลงไปต้ม เติมผงวุ้นลงไป คนให้ละลาย และพักไว้ประมาณ 10 นาที

2. นำมาตั้งไฟต่อ อย่าใช้ไฟแรง คนเรื่อย ๆ จนผงวุ้นละลาย ใส่น้ำตาลทรายลงไปละลาย คนให้เข้ากัน จากนั้นนำเนื้อมะพร้าวอ่อนใส่ลงไป ต้มให้เดือดแล้วยกลงจากเตา

3. ตักใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ จะใช้เป็นถ้วยเล็ก ๆ ไม่ใหญ่มาก เมื่อตั้งเสร็จแล้วก็ปล่อยให้แข็งตัว

วิธีการทำน้ำราดเต้าฮวย

1. ตั้งหม้อ ใช้ไฟปานกลาง เทน้ำเปล่า และนมสดลงไปต้มจนเดือด

2. เติมน้ำตาลทราย และเนื้อมะพร้าวอ่อนที่ขูดไว้ลงไป คนให้น้ำตาลละลาย ปิดไฟ ยกหม้อลงจากเตา พักสักครู่พอให้หายร้อน

3. ตักน้ำราดลงไปด้านหน้าของตัวเต้าฮวย และปิดฝา แช่ตู้เย็นเต้าฮวยนมสดมะพร้าวก็มีวิธีการทำเพียงแค่นี้ ง่ายมาก โดยรวมใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก็เสร็จพร้อมรับประทาน หรือนำไปขายได้เลย ต้นทุนต่ำ ทำง่าย ประหยัดเวลา แนะนำเลยว่าหากใครที่กำลังหา สูตรทำขนมขาย เต้าฮวยนมสด ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่อยากจะแนะนำ ทานง่าย ขายคล่อง

Categories
ขนมหวาน ขนมเจ ขนมไทย

สูตรเด็ด ข้าวเหนียวมะม่วง เมนูยอดฮิตกำลังมาแรง

ข้าวเหนียวมะม่วง

กระแสมาแรงฮอตสุดๆ ร้านข้าวเหนียวมะม่วงถึงกลับคิวยาวเลยก็ว่าได้ วันนี้เราจะพาทุกคนมาเข้าครัวไปทำเมนูยอดฮิต ข้าวเหนียวมะม่วง กันค่ะ บอกเลยว่าไม่ต้องไปต่อแถวรอยาวๆให้เสียเวลา ทำกินเองแบบฟินๆ กินได้ไม่อั้นไปเลย พูดแล้วก็อยากกินแล้วใช่ไหมละคะ งั้นเราไปดูวัตถุดิบและขั้นตอนการทำข้าวเหนียวมะม่วงกันเลย ห้ามพลาดนะสำหรับเมนูนี้

วัตถุดิบและขั้นตอนการทำข้าวเหนียวมะม่วง

วัตถุดิบการทำข้าวเหนียวมะม่วง

1.ข้าวเหนียว 300 กรัม

2.กะทิ 1 กล่อง

3.น้ำตาลทราย ¾ ถ้วย

4.เกลือ 1 ¼ ช้อนชา

5.แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา

6.ใบเตย 3-4 ใบ

7.ผ้าขาวบาง

8.หวดนึ่งข้าวเหนียว

ขั้นตอนการทำข้าวเหนียวมะม่วง

1.นำข้าวเหนียวมาล้างน้ำสะอาด ซาวล้างหลายๆรอบ จากนั้นแช่ข้าวเหนียวทิ้งไว้ข้ามคืน

2.เตรียมหม้อนึ่งเติมน้ำลงในซึ้ง ตั้งไฟโดยใช้ไฟค่อนข้างแรง รอจนน้ำเดือด จากนั้นตักข้าวเหนียวขึ้นมาห่อผ้าขาวบาง ใส่ใบเตยลงไป แล้วนำมาใส่หวดนึ่ง โดยจะนึ่งประมาณ 30 นาทีจนข้าวเหนียวสุกดี ระหว่างรอข้าวเหนียวสุกเรามาทำขั้นตอนอื่นต่อกันดีกว่าเลยค่ะ

3.นำกะทิมาแบ่ง ¾ ถ้วย สำหรับส่วนที่เหลือให้นำไปใส่หม้อเพื่อจะใช้มูลข้าวเหนียว จากนั้นเติมน้ำตาลและเกลือลงไป 1 ช้อนชา ตั้งไฟอ่อนๆ

4.เสร็จแล้วใส่ใบเตยลงไปในกะทิคนเรื่อยๆจนน้ำตาลทรายและเกลือละลาย ต้องคนตลอดอย่าปล่อยให้กะทินอนก้น รอจนกะทิเดือดเสร็จแล้วปิดแก๊สยกลงมาพักทิ้งไว้

5.พอข้าวเหนียวสุกแล้วให้ตักใส่ภาชนะที่เตรียมมูลไว้ จากนั้นเทกะทิร้อนๆ ใส่ลงไป คนเร็วๆให้ทั่วแล้วปิดฝาให้ข้าวเหนียวระอุสัก10-15 นาที

6.นำกะทิส่วนที่แบ่งไว้ ¾ มาผสมกับแป้งข้าวเจ้าและเกลือ นำไปตั้งไฟแล้วคนเรื่อยๆจนกะทิเดือดห้ามหยุดคนเด็ดขาด สำหรับขั้นตอนนี้จะใช้เป็นกะทิราดหน้า

7.ตักข้าวเหนียวใส่จานแล้วราดด้วยน้ำกะทิ ปลอกมะม่วงให้สวยงามจัดจาน โรยถั่วเหลืองเล็กน้อยพร้อมเสิร์ฟความอร่อยแล้วค่ะ

ข้าวเหนียวมะม่วง

วิธีการเลือกมะม่วงสุก

1.สังเกตุผิวสีมะม่วงจะสีเหลืองเข้ม

2.ใช้มือจับถ้านิ่มมือหรือมีรอบยุบแสดงว่าสุกพร้อมทานกับ ข้าวเหนียวแล้วค่ะ

3.เลือกมะม่วงสุกที่เปลือกมีรอบดำบ้างเล็กน้อยจะหวานพร้อมทาน

บทสรุปสุดท้าย

          เป็นยังไงกันบ้างคะกับสูตรเด็ดข้าวเหนียวมะม่วง เมนูยอดฮิตกำลังมาแรงไม่ต้องไปยืนรอคิวนานๆให้เสียเวลาเลย เข้าครัวทำอยู่บ้านแบบสบายใจ สูตรนี้บอกเลยว่าอร่อย หอม ละมุนสุดๆ

Categories
ขนมหวาน

เมนู เต้าส่วนข้าวโพด หอมหวานอร่อย ทำง่ายไม่ยุ่งยาก

ในบรรดาขนมหวานที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบต้องบอกเลยว่า เต้าส่วน ต้องเป็นหนึ่งในเมนูสุดโปรดของเด็ก ๆ หลายคนเป็นแน่ เป็นเมนูที่ทำง่าย ทานง่าย ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่เห็นแล้วเป็นต้องอยากจะตักขึ้นมากินเพลิน ๆ ซึ่งวันนี้เราก็จะมาแชร์วิธีการทำเต้าส่วนที่ทางเรานั้นชอบ นั่นก็คือ เต้าส่วนข้าวโพด ความหวานจากข้าวโพดและน้ำเชื่อมตัดกับความหอมมันเค็มของกะทิที่ราดบนหน้ามันคือฟินมาก มาดูสูตรเต้าส่วน และวิธีทำเต้าส่วนถ้วยนี้กันเลย

ส่วนประกอบเต้าส่วนข้าวโพด

  1. ข้าวโพดหวานต้ม  3 ฝัก
  2. มะพร้าวอ่อน   2 ลูก
  3. แป้งท้าวยายม่อม  4 ช้อนโต๊ะ
  4. แป้งมันสำปะหลัง  4 ช้อนโต๊ะ
  5. กะทิ    250 กรัม
  6. น้ำตาลทราย   80 กรัม
  7. เกลือ    1 ช้อนชา
  8. ใบเตย 6 ใบ
  9. น้ำเปล่า

วิธีทำ เต้าส่วนข้าวโพด

ขั้นตอนที่ 1 นำข้าวโพดหวานที่ต้มสุกแล้ว มาฝาน แล้วจากนั้นพยายามแยกให้แต่ละเม็ดกระจายออกจากกัน และพักไว้

ขั้นตอนที่ 2 นำมะพร้าวอ่อนเฉาะแยกน้ำ และเนื้อขูดออกมา อย่าลืมชิมน้ำดูก่อนว่าเปรี้ยวหรือไม่ ถ้าเปรี้ยวไม่ควรนำมาใช้

ขั้นตอนที่ 3 ผสมแป้งท้าวยายม่อม และแป้งมันสำปะหลัง ละลายลงในน้ำเปล่า จากนั้นนำแป้งที่ละลายไปกรอง กรณีที่การทำเต้าส่วน ไม่มีแป้งท้าว อาจทำให้เต้าส่วนข้นเหนียวกว่าปกติ

ขั้นตอนที่ 4 เตรียมน้ำเชื่อม โดยใส่น้ำมะพร้าว น้ำเปล่า ลงในหม้อ นำไปตั้งไฟให้ร้อน ใส่น้ำตาลทราย และใบเตยลงไป คนจนน้ำตาลละลายจนหมด และตัดใบเตยออกเพื่อไม่ให้กลิ่นใบเตยแรงเกินไป

ขั้นตอนที่ 5 ใส่ข้าวโพดลงไปในหม้อน้ำเชื่อม และเมื่อน้ำร้อนจัดจึงค่อย ๆ ใส่แป้งที่กรองแล้วลงไป พยายามคนให้แป้งกระจายทั่วทั้งหม้อ และคนไปในทิศเดียวกัน แป้งจะได้ไม่จับตัวเป็นกัน และไม่คืนตัวง่าย

ขั้นตอนที่ 6 เมื่อคนจนแป้งสุกมองไปแล้วเห็นว่าใสจึงใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป และพอน้ำในหม้อเริ่มเดือดอีกครั้งให้ปิดไฟยกลงจากเตา

ขั้นตอนที่ 7 เตรียมกะทิราด โดยการใส่กะทิลงในหม้อนำไปตั้งไฟอ่อน ๆ เติมเกลือเล็กน้อยให้กะทิมีรสชาติเค็มเพื่อไปตัดความหวานกับเต้าส่วน และใส่ใบเตยลงไป เคี้ยวไปจนเห็นว่ามีกะทิเดือดข้างหม้อ ปิดไฟยกลงจากเตา และเตรียมตักเต้าส่วนเสิร์ฟราดหน้าด้วยกะทิ พร้อมทาน

หากใครลองไปทำตามแล้วอาจจะลองปรับส่วนของน้ำตาลลงได้ให้ได้ระดับความหวานของเต้าส่วนที่พอดี กับที่คุณชอบ และอาจไปประยุกต์ใส่สาคูเพิ่ม เผือกต้มหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสที่หลากหลายในขนมหวานถ้วยเดียวก็ย่อมได้

Categories
ขนมหวาน

ดับร้อนด้วย วุ้นกะทิมะพร้าว ทานแล้วสดชื่นไปกับรสชาติหวานมันหอมละมุน

มาดับร้อนแทน แต่ต้องเมนูที่ได้ทั้งความหวานอร่อย และถ้าเย็น ๆ ด้วยจะดีมาก วันนี้จึงขอเสนอ เมนู วุ้นกะทิ มะพร้าวอ่อน เมนูวุ้นกะทิที่เมื่อนำไปแช่เย็น แล้วนำออกมาจากตู้เย็นก็จะพร้อมทาน หวานหอมอร่อยแบบที่ต้องการ กัดไปหนึ่งคำได้สัมผัสชิ้นเนื้อมะพร้าวอ่อนกรุบกรอบอยู่ภายในตัววุ้นที่เนื้อเด้งนุ่ม แต่ก่อนจะทานได้ ก็ต้องรู้วิธีทำวุ้นกะทิกันก่อน ตามมาดูกันเลย

ส่วนประกอบของวุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน

  1. มะพร้าวน้ำหอม 1 ลิตร
  2.  กะทิ 600 มิลลิลิตร
  3. เนื้อมะพร้าวน้ำหอมหั่นเป็นเส้น 400 กรัม
  4. น้ำตาลทรายขาว 150 กรัม
  5. ผงวุ้น ตรานางเงือก 15 กรัม อาจเพิ่มลดได้ตามความชอบเนื้อสัมผัสของวุ้น 
  6. เกลือป่น

วิธีทำของวุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน

ขั้นตอนที่ 1 กรองน้ำมะพร้าวด้วยผ้าขาวบางจนได้น้ำมะพร้าวที่ใส จากนั้นเทลงหม้อ และค่อย ๆ โปรย ผงวุ้น ตามที่ต้องการ  รอประมาณ 2 นาที เพื่อให้ผงวุ้นจมลงไปในน้ำ จากนั้นนำไปตั้งไฟปานกลาง ระหว่างต้มให้คนไปด้วยตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ผงวุ้นไหม้ติดก้นหม้อ ต้มต่อไปจนเดือด หลังจากเดือดต้มต่อประมาณ 2-3 นาที

ขั้นตอนที่ 2 เติมน้ำตาลทรายขาวลงไป และเกลืออีกเล็กน้อย คนต่อไปจนน้ำตาลทรายละลายหมด แล้วจึงใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป และต้มต่อจนน้ำเดือดอีกรอบ เพื่อให้เนื้อมะพร้าวนุ่มลงอีก

ขั้นตอนที่ 3 เติมหัวกะทิลงในหม้อเป็นอย่างสุดท้าย และปิดไฟ จากนั้นคนให้เข้ากัน

ขั้นตอนที่ 4 ตักใส่พิมพ์ตามที่ต้องการ รอให้วุ้นเซตตัว แล้วจึงแกะออกมาจากพิมพ์ ก่อนรับประทานนำไปแช่เย็นก่อนอีกทีเพื่อเพิ่มความอร่อยในการรับประทานได้  

จบกันไปกับ วุ้นกะทิสูตรง่าย ๆ ทำเองได้ที่บ้านที่นำมาฝากกันวันนี้ หากใครไม่อยากทานแค่ วุ้นกะทิ อาจจะเพิ่มลูกเล่นเป็นวุ้นกะทิชั้นหนึ่ง ส่วนอีกชั้นอาจจะเป็นวุ้นใสรสชาติอื่น เช่น วุ้นกะทิใบเตย วุ้นกะทิน้ำแดง เป็นต้น ก็สามารถทำได้

Categories
ขนมหวาน

ขนมครองแครงกะทิสด ขนมไทยหน้าตาชวนรับทาน รสชาติหวานกำลังพอดี

มาทำความรู้จักขนมไทยโบราณที่หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเหมือนตัวหนอนปล้อง ๆ สีสันสวยงามที่ลอยอยู่ในน้ำกะทิโรยหน้าด้วยงาขาวสุดหอม อย่างครองแครงกะทิสด เมนูที่ประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญอย่างตัวครองแครง ที่ทำจากแป้งมันเมื่อต้มแล้วจะให้ความหนึบหนับ มีสีสันออกมาตามสีที่แต่งลงไป อย่างสูตรที่เป็นครองแครงอัญชันน้ำกะทิ เพราะนำอัญชันมาแต่งสีเป็นสีฟ้าเข้มและอ่อน ส่วนต่อไปขึ้นน้ำกะทิที่หวานมันเค็ม และปิดท้ายด้วยงาขาวคั่วเพิ่มความหอมชวนให้น่าทานขึ้นไปอีก

ส่วนประกอบ

  1. ดอกอัญชันสด 50 กรัม
  2. น้ำเปล่า 600 มิลลิลิตร
  3. แป้งมัน 1500 กรัม
  4. หัวกะทิ 1000 กรัม
  5. ใบเตย 20 ใบ
  6. น้ำมะพร้าวน้ำหอมและเนื้อมะพร้าว 1 ผล *น้ำจะต้องหวานพอดีไม่มีเปรี้ยวปน
  7. น้ำตาล 300 กรัม
  8. เกลือ    1 ช้อนชา
  9. งาขาวคั่ว 100 กรัม *ควรคั่วสดใหม่ก่อนนำมาใช้โรยหน้า

วิธีทำ

ขั้นตอนที่ 1 ต้มน้ำอัญชันเพื่อแต่งสีครองแครง โดยตั้งน้ำให้เดือด จากนั้นใส่อัญชันที่ล้างสะอาดแล้วลงไป รอจนน้ำเดือดและสีอัญชันออกมา แล้วจึงปิดไฟนำลงมาจากเตา แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนที่สีเข้มเป็นน้ำอัญชันทั้งหมด และสีอ่อน เป็นน้ำอัญชันผสมน้ำเพิ่มเพื่อเจือให้สีจางลง

ขั้นตอนที่ 2 ร่อนแป้งมันลงในกะละมังผสมอย่าลืมแบ่งเป็นสามส่วนสำหรับสามสี ส่วนแรกก็ใส่น้ำอัญชันสีเข้มลงไปนวดกับแป้งให้เนื้อเนียนเหนียวเป็นเนื้อเดียวกัน และหาอะไรปิดไว้ไม่ให้แป้งเจอกับอากาศโดยตรงเพราะจะทำให้แป้งแข็งได้ สำหรับส่วนที่สองและสาม ให้ใส่น้ำอัญชันที่เจือกับน้ำเพื่อทำสีฟ้าอ่อน และน้ำต้มสุกอย่างเดียวเพื่อทำสีขาวใส ตามลำดับ

ขั้นตอนที่ 3 นำพิมพ์ครองแครงมาจากนั้นโรยแป้งบาง ๆ ลงบนพิมพ์แล้วจึงวางแป้งที่นวดไว้แต่ละสีปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ รี ๆ มากดลงบนพิมพ์ ระหว่างที่ทำตัวครองแครงให้ตั้งน้ำ เพื่อต้มรอไว้

ขั้นตอนที่ 4 เมื่อน้ำเดือด จึงใส่ตัวครองแครงที่ร่อนแป้งที่เกาะอยู่ออกแล้ว ลงไปต้ม รอให้ลอยขึ้นมา และตักลงในน้ำเย็นทันที แป้งจะคงความนุ่มหนึบสีสวย

ขั้นตอนที่ 5 เตรียมหัวกะทิจะมะพร้าวขูดคั้นสด ระหว่างอย่าให้มีเศษกะลามาปน สีของน้ำกะทิจะดูไม่ขาวสวย และนำหัวกะทินั้นไปตั้งไฟอ่อน และเด็ดใบเตยใส่ลงไป จากนั้นตามด้วยน้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าว ปิดจบด้วยการเติมน้ำตาลและเกลืออีกเล็กน้อย พอให้มีรสชาติความเค็ม เคี้ยวต่อไป โดยระวังไม่ให้กะทิแตกมัน

ขั้นตอนที่ 6 ช้อนใบเตยขึ้นมา และใส่ตัวครองแครงลงไปคนในกะทิ คนต่ออีก 2-3 นาที แล้วจึงนำมาตักใส่ถ้วย ก่อนเสิร์ฟโรยงาขาวที่คั่วสดใหม่ เพื่อความหอมมันให้กับเมนูนี้

หากใครอยากลองนำเมนูครองแครงกะทิสดไปทำตามและอยากเปลี่ยนแปลงสีสันไม่ชอบสีน้ำเงินก็อาจหาสีธรรมชาติอย่างใบเตยที่ให้สีเขียว หรือแครอทม่วงที่ให้สีม่วง มาแต่งสีแทนอัญชันได้ และหากสูตรนี้หวานเกินไปก็ปรับสูตรตามที่คุณต้องการได้เช่นเดียวกัน

Categories
ขนมหวาน

ทับทิมกรอบ ขนมหวานที่อร่อย จนต้องบอกต่อ

ทับทิมกรอบ ขนมหวานขึ้นชื่อของประเทศไทยที่มีสูตรการทำตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น แต่เด็กสมัยนี้กลับไม่รู้จัก! เพราะในปัจจุบันมีความจากต่างประเทศที่เข้ามาดัดแปลงขายอยู่ในไทยมากมาย ทำให้ขนมไทยที่เคยเป็นที่นิยมนั้นเริ่มหายไปตามกาลเวลา แต่ในเมื่อเราเป็นคนไทยเราก็ควรที่จะรักษามันเอาไว้ เพราะฉะนั้นเรามาเรียนรู้การทำทับทิมกรอบกันดีกว่าค่ะ

 ซึ่งวิธีการทำ ทับทิมกรอบ นั้นก็มีอยู่ด้วยกันหลายสูตรหลายวิธิ เช่น ทับทิมกรอบสูตรโบราณ ทับทิมกรอบสูตรชาววัง ทับทิมกรอบอัญชัน และที่พวกเราน่าจะรู้จักกันดีที่สุดคือทับทิมกรอบมะพร้าวกะทิ ซึ่งถ้าจะพูดถึงเรื่องรสชาติของทับทิมกรอบนั้นเราก็คงรู้อยู่แล้วว่ามันทั้งหวานหอมแถมยังหนึบนอกกรอบในอีกต่างหาก  ว่าแต่ว่าทับทิมกรอบที่เราชื่นชอบกันอร่อยขนาดนี้แล้ววิธีการทำเป็นยังไง เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะ

ทับทิมกรอบที่เราจะมาทำกันในวันนี้นั่นก็คือ “ทับทิมกรอบสูตรโบราณ” นั่นเองค่ะ โดยมีวิธีการทำดังนี้

วัตถุดิบ

ทำแป้งทับทิมกรอบ

  1. แป้งมัน 2 ถ้วยตวง
  2. แป้งท้าว ½ ถ้วยตวง
  3. น้ำเปล่า 1 ½ ถ้วยตวง
  4. สารส้ม

น้ำเชื่อม

  1. น้ำลอยดอกมะลิ (ถ้าไม่มีสามารถใช้น้ำเปล่าได้) 2 ถ้วยตวง
  2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
  3. ใบเตยมัดปม 3 ใบ
  4. เกลือ ประมาณ 1 หยิบ (ไม่ควรใส่มากเกินไป)
  5. ขนุนสุก

กะทิอบควันเทียน (ในวิธีนี้หากมีกะทิอบควันเทียนอยู่แล้วก็สามารถใช้ได้เลย)

  1. กะทิ (ใส่ตามใจชอบ)
  2. ใบเตยมัดปม
  3. เกลือเล็กน้อย
  4. เทียนสำหรับอบขนม

วิธีทำ

วิธีทำแป้งทับทิมกรอบสูตรโบราณ

  1. เริ่มด้วยการนำแป้งมันและแป้งท้าวผสมกันแล้วค่อย ๆ เทน้ำเปล่าใส่จนหมด ค่อย ๆ เทนะคะอย่าเททีเดียวหมดเพราะระหว่างที่เทเนี่ยมือเราก็ควรที่จะนวดแป้งไปด้วย
  2. เมื่อเทน้ำเปล่าจนหมดแล้วคราวนี้เราก็จะมาใช้เจ้าสารส้มที่เราได้เตรียมไว้นั้นแกว่งลงไปเพื่อที่จะให้แป้งนั้นนอนก้น แกว่งสารส้มลงไปประมาณ 1 นาที และพักแป้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็จะสังเกตได้ว่าจะมีน้ำใส ๆ ลอยอยู่บนผิวแป้ง ให้เราทำการรินน้ำใส ๆ นั้นทิ้งค่ะ
  3. หลังจากนั้นนำแป้งที่ได้เทใส่กล่อง ซึ่งวิธีการเทนั้นก็ต้องนำกระดาษทิชชู่หนา ๆ แล้วผ้าขาวบางมาวางไว้ที่กล่องแล้วจึงเทแป้งที่ได้แล้วลงไปที่ผ้าวขาวบางที่เราได้เตรียมไว้ในกล่องแล้วเพื่อที่เวลาเรานำแป้งออกจะได้ง่ายนั่นเอง
  4. เมื่อเราเทแป้งทับทิมกรอบลงในกล่องเรียบร้อยแล้วเราก็นำสีแดงที่ใช้สำหรับผสมอาหารเจือจางกับน้ำเล็กน้อย หลังจากนั้นนำสีทาลงไปในตอนที่แป้งเปียกได้เลยค่ะ และที่สำคัญคือเราต้องคอยสังเกตหน้าแป้งด้วย ถ้าหน้าแป้งแห้งไม่มากให้โรยแป้งนวลหนา ๆ ไปที่ผิวหน้าแป้งได้เลยค่ะแล้วพักทิ้งไว้ 20 นาที เพื่อที่แป้งนวลจะได้ดูดซับความชื้นออกจากตัวแป้ง
  5.  เมื่อแป้งเซตตัวได้ที่แล้วนำแป้งมาตัด ตัวยาวจะตัดเป็นเส้นเล็ก ๆ ขนาดเท่าไม้ขีดไฟ ตัวสั้นจะตัดเล็ก ๆ เหมือนเม็ดทับทิม โรยแป้งนวลบาง ๆ กันตัวแป้งติดกัน ซึ่งเคล็ดลับ เวลาตัดแป้งก็ควรที่จะทำเบาๆ เพราะแป้งแตกหักง่ายมากโดยเฉพาะตัวยาว ต้องทะนุถนอมให้มาก ๆ และปัญหาที่พบบ่อย ๆ ก็คือแป้งแห้งเกินไปจะตัดตัวยาวไม่ได้เลยเพราะแตกหักหมด

วิธีทำน้ำเชื่อม

วิธีทำน้ำเชื่อมสำหรับทับทิมกรอบสูตรโบราณที่ก็ง่ายมาก ๆ เลยล่ะค่ะ เพียงแค่เติมน้ำลอยดอกมะลิ น้ำตาลทราย ตั้งไฟอ่อนไม่ต้องคนนะคะ พอร้อนก็ใส่ใบเตย เกลือ พอน้ำตาลละลายหมดให้ต้มต่ออีกประมาณ 10 นาที จากนั้นแบ่งน้ำเชื่อมบางส่วนที่ยังร้อนตักแช่กับขนุนพักไว้ เพียงเท่านี้เราก็จะได้น้ำเชื่อมที่ไว้ทานกับทับทิมกรอบกันแล้วค่ะ

วิธีทำกะทิอบควันเทียน

วิธีนี้ในปัจจุบันเราก็จะเห็นบริษัทน้ำกะทิหลายบริษัทผลิตออกมาเป็นน้ำกะทิอบควันเทียนกันใช่ไหมคะ แต่วันนี้เราจะพาทกคนมารู้ว่ากะทิอบควันเทียนแบบโบราณเนี่ยเขาทำกันยังไง โดยเราจะนำกะทิตั้งไฟอ่อน พอร้อนก็ใส่ใบเตยลงไป ใส่เกลือลงไปให้ออกเค็มนิดหน่อยพอร้อนห้ามเดือดจะได้ไม่แตกมันนำอบควันเทียนอีก 1ชม. ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะคะ

เมื่อทำครบเสร็จตามนี้แล้วเราก็จะได้ทับทิมกรอบสูตรโบราณมาทานกันแล้ว ทั้งหนึบ กรอบ แถมยังหวานหอมขนาดนี้ ถ้าไม่ทำทานตอนนี้แล้วจะไปทำทานตอนไหนกันล่ะคะ แถมวิธีทำก็ไม่ได้ยากเลย ยิ่งถ้าได้ทำร่วมกันกับคนในครอบครัวในวันว่าง ๆ แล้ล่ะก็จากทับทิมกรอบที่หวานธรรมดา ๆ จะต้องกลายเป็นทับทิมกรอบที่หวานมาก ๆ เลยล่ะค่ะ แต่ก็อย่าทานเยอะเกินไปนะคะเป็นห่วงกลัวว่าน้องเบาหวานจะถามหากันซะก่อน

Categories
ขนมหวาน

กล้วยบวชชี ขนมหวานสูตรทำง่าย

กล้วยบวชชี เป็นขนมหวานโบราณพื้นบ้านคู่กับคนไทยมานาน อีกทั้งกล้วยก็เป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่าย หรือเรียกว่ามีให้ใช้ได้ตลอดทั้งปี อยู่ที่ว่าต้องการจะใช้กล้วยชนิดไหนมาทำ เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่  ในส่วนวิธีการทำก็มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก บวกกับเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะทำให้ขนมหวานนั้นมีรสชาติดั้งเดิมและยังเป็นขนมที่ได้ประโยชน์สารอาหารจากกล้วยอีกด้วย

วัตถุดิบในการทำกล้วยบวชชี

  1. กล้วยน้ำว้าห่าม 1 หวี
  2. หัวกะทิ  2 ถ้วยตวง ( สามารถใช้กะทิกล่องได้ )
  3. เกลือป่น  1 ช้อนชา
  4. น้ำตาล  200 กรัม
  5. น้ำเปล่า  1 ถ้วย
  6. ใบเตยมัดปม

วิธีทำกล้วยบวชชี

  1. วิธีทำกล้วยบวชชีไม่ให้ฝาด และไม่เละ คือการเลือกกล้วยควรจะเลือก กล้วยน้ำว้าที่หวีห่าม ๆ ที่มีสีเหลืองเจือเขียวเล็กน้อย ให้ทำการปอกเปลือก ผ่าเป็น 4 ชิ้น นำไปต้มในน้ำเดือด ใส่เกลือเล็กน้อย ประมาณ 7 นาที เพื่อให้ยางกล้วยออกก็จะทำให้กล้วยไม่ฝาดได้อีกด้วย
  2. สำหรับหลายคนที่อาจจะกลัวว่ากล้วยจะมีรสเปรี้ยว ก็มีวิธีทำกล้วยบวชชีไม่ให้เปรี้ยวได้โดยการนำกล้วยทั้งเปลือกมาต้มกับน้ำเดือด ใส่เกลือเล็กน้อยใช้เวลาประมาณ 7 นาที จากนั้นนำมาพักไว้ให้เย็น ก่อนปอกเปลือกแล้วผ่าเป็น 4 ชิ้น เท่านี้กล้วยบวชีก็จะไม่มีรสเปรี้ยวแล้ว
  3. นำกะทิใส่หม้อ ใส่น้ำตาล เกลือป่น คนให้น้ำตาลละลายโดยที่ยังไม่ตั้งไฟเพื่อไม่ให้กะทิแตกมัน หากไม่สามารถซื้อกะทิสดได้ ก็ปรับเปลี่ยนเป็นวิธีทำกล้วยบวชชี กะทิกล่อง ได้เช่นกันรสชาติก็จะมียังคงหอมมันไม่แพ้กัน
  4. เมื่อกะทิน้ำตาลละลายดีแล้ว ให้นำขึ้นตั้งไฟ ใส่กล้วยต้มลงไป ต้มต่อประมาณ 10 นาที เพื่อให้กะทิซึมเข้าในเนื้อกล้วย จากนั้นตักเสิร์ฟ

วิธีทำกล้วยบวชชีแบบง่าย ๆ กล้วยสุกกำลังพอดี แต่สำหรับคนที่ชอบกินขนมหวานกล้วยบวชชีนิ่ม ๆ ก็สามารถที่จะต้มต่อได้อีกประมาณ 5-10 นาทีเพื่อให้กล้วยนิ่มขึ้น และยิ่งให้กะทิซึมเข้าเนื้อมากขึ้น ก็จะหวานมันทั้งกะทิและเนื้อกล้วยพร้อมตักเสิร์ฟได้เลย