เอแคลร์ (Eclair) ชูครีม (Choux Cream) ต่างกันอย่างไร หลายคนยังไม่รู้ หลายคนยังแยกไม่ออก ซึ่งในบ้านเราก็เรียกผิดกันมาอย่างยาวนาน และทำผิดกันมาอย่างยาวนาน โดยการทำขนมชูครีมแต่ไปเรียกว่า เอแคลร์ พอนำออกมาขายก็ทำให้คนเข้าใจว่านี่คือ เอแคลร์ นะ เพราะฉะนั้นเพื่อให้คลายข้อสงสัย เรามาทำความรู้จัก ขนมสองชนิดนี้ให้มากขึ้นกันดีกว่า
ขนมทั้งสองชนิดล้วนเป็นขนมที่มีต้นกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศสด้วยกันทั้งคู่ ทำมาจากแป้งชนิดเดียวกัน คือ แป้งพายนิ่ม (Choux pastry) สิ่งที่แตกต่างกันของขนมสองอย่างนี้คือรูปทรง ชูครีม หรือ ชูช์ อา ลาเคร์ม (Choux a la Crème) คำว่า ชูช์ (Choux) ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึง กะหล่ำปี ชูครีมจึงมีรูปร่างคล้ายกะหล่ำปีทรงกลม มีครีมสอดไส้อยู่ข้างในนั่นเอง ส่วน เอแคลร์ (Eclair) ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึง สายฟ้า เอแคลร์ จึงมีรูปทรงยาว และมีความหลากหลายในการปรับแต่งขนมหวานชนิดนี้มากกว่าชูครีม เพราะมีทั้งแบบสอดไส้เหมือนชูครีม แบบราดด้านบน แบบผ่าแป้งตรงกลางและวางไส้ไว้เหมือนฮอทดอก
ขนมเอแคลร์ เป็นขนมที่หากินง่าย ไปที่ไหนก็เจอ เพราะเป็นขนมที่อร่อย หอมหวานอย่างลงตัว ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ติดใจกันไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นเอแคลร์ 7-11 ไปที่ไหนก็เจอเอแคลร์ การบินไทย ของร้าน Puff & Pie อร่อยได้ทุกครั้งก่อนขึ้นบิน และหลังบินเสร็จเอแคลร์ จือปาก อันนี้ก็แซ่บอย่าบอกใคร เจอได้ตาม Youtube แต่อันนี้กินไม่ได้นะ เอ๊ะ หรือกินได้หว่า… ? แต่เรื่องแซ่บคนนี้รับประกันแน่นอนจ้า ส่วนถ้าใครชอบขนมหวานและเค้กมากมาย ร้านเอแคลร์ ชลบุรี ก็เป็นอีกร้านชื่อดังประจำเมืองชลที่น่าไปลองสักครั้งนะ
เรามาดู สูตร และ วิธีการทำ เอแคลร์ ง่าย ๆ สำหรับไว้ทำกินเองที่บ้าน หรือจะทำขายก็ได้เช่นกัน
ส่วนผสมแป้ง Choux pastry
- แป้งขนมปัง 125 กรัม
- น้ำตาล 2 ช้อนชา
- เกลือ ½ ช้อนชา
- นม 100 มิลลิลิตร
- น้ำเปล่า 250 มิลลิลิตร
- ไข่ 4 ฟอง
- เนยเค็ม 125 กรัม
ส่วนผสมของครีมเอแคลร์
- นม 400 กรัม
- กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
- ไข่แดง 4 ฟอง
- น้ำตาล 70 กรัม
- แป้งข้าวโพด 40 กรัม
- เนยเค็ม 15 กรัม
ส่วนผสมสำหรับเคลือบหน้าด้วยช็อกโกแลต
- ช็อกโกแลตก้อน 200 กรัม ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ (หรือถ้าชอบช็อกโกแลตยี่ห้อไหนเลือกใช้ได้ตามชอบ)
- วิปปิ้งครีม 155 มิลลิลิตร
วิธีทำ
- ทำไส้คัสตาร์ดครีม ต้มนมจนเดือดและตีไข่แดงกับน้ำตาลจนไข่มีสีอ่อนลง
- ร่อนแป้งข้าวโพดลงไปแล้วตะล่อมให้เข้ากัน เติมนมที่ต้มจนเดือดครึ่งหนึ่งลงไปผสม คนจนเข้ากันเสร็จแล้วเทกลับลงหม้อต้มนม
- ใช้ไฟต่ำ คนส่วนผสมจนข้นขึ้น แล้วปิดเตา เติมเนยและกลิ่นวนิลา คนจนเข้ากันอีกครั้ง แล้วนำไปพักในชาม จนเย็นสนิทดี
- การทำแป้ง นำน้ำเปล่า นม และ เนยเค็มที่เตรียมไว้มาผสมกัน โดยที่ยังไม่เปิดไฟ หลังจากนั้นเปิดไฟ(กลาง) คนให้เข้ากันรอให้น้ำ/นม และ เนย ที่ต้มร้อนได้ที่
- พอน้ำเดือดให้เติมแป้งขนมปัง น้ำตาล เกลือ และกลิ่นวนิลาเล็กน้อยเพื่อความหอมลงไป ยกขึ้นมาจากเตาปิดไฟ (เพื่อไล่ความชื้น) คนให้เข้ากันจนไม่มีแป้งสีขาว ๆ แล้วค่อยนำกลับไปผัดต่อโดยการใช้ไฟกลางอีกเรื่อย ๆ ประมาณ 2-3 หรือจนกว่าจะมีแป้งติดเป็นฟิล์มบาง ๆ
- หลังจากนั้นยกลงจากเตาแล้วเปลี่ยนหม้อเพื่อปรับอุณหภูมิให้ลดลง ใช้ไม้พายคนเพื่อให้คลายความร้อน แล้วใส่ไข่ลงไป คนให้เข้ากันจนแป้งหนืด
- นำแป้งโดว์ที่เตรียมไว้บีบลงใส่ถาดเป็นเส้นยาวประมาณ 10-12 เซนติเมตร นำไปอบที่อุณหภูมิที่ 190 องศา เป็นเวลา 25 นาที ใช้ไฟบน-ล่าง หลังจากอบเสร็จแล้วให้พักเตาก่อน แง้มเตาเพื่อปรับอุณหภูมิก่อนนำขนมออกจากเตาอบสัก 10 นาที ขนมจะได้ไม่แฟบ แล้วจึงนำมาพักต่อข้างนอก หลังจากนั้นเจาะรูขนมเพื่อบีบคัสตาร์ดเข้าไป
- ทำหน้าเคลือบ ด้วย ช็อกโกแลตสับที่เตรียมไว้ นำมาใส่ถ้วย แล้วเติมวิปปิ้งครีมร้อน ๆ ลงไปในถ้วย คนจนเข้ากัน หรือจะนำ ช็อกโกแลตไปผัดจนละลายเป็นซอสก็ได้
- พอได้ที่แล้วก็นำเอแคลร์ มาจุ่มเพื่อเคลือบด้านบนเอาไว้ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ
เกร็ดความรู้เล็กน้อยสำหรับการทำ : การใส่ไส้ต้องรอให้เปลือกเอแคลร์และไส้นั้นเย็นทั้งคู่ ถ้าเปลือกร้อนแต่ไส้เย็น จะทำให้เสียไว ถ้าเปลือกเย็น แต่ไส้ร้อน จะทำให้เปลือกแฉะและทำให้เอแคลร์เสียไวเช่นกัน
สรุป
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับเอแคลร์ สูตร ที่เราแนะนำให้ไป บอกตรง ๆ เลยว่าทำได้ก็ทำขายได้เลยนะเอแคลร์ มี แคลอรี่ มากพอสมควร โดยมี แคลอรี่ ประมาณ 200-260 กิโลแคล ต่อ ปริมาณ 100 กรัม ขึ้นชื่อว่าขนมหวาน กินแล้วก็อย่าลืมออกกำลังกายเผาผลาญพลังงานส่วนเกินกันด้วยนะทุกคน