Categories
ขนมปัง

ปังบริยอช ขนมปังเนื้อนุ่ม จากฝรั่งเศส หอมเนยกลิ่นกรุ่นแตะจมูก

ปังบริยอช

ปังบริยอช หรือเรียกว่า “บริออช BRIOCHE” เป็นขนมปังที่ไม่ได้มีต้นกำเนิดจากประเทศไทย แต่เป็นขนมปังของชนชาติฝรั่งเศสที่เผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งจะเป็นขนมปังก้อนแพ ที่มีเนื้อหนานุ่มไม่มีไส้ เนื้อของขนมปังจะบางเบา และฟู เวลารับประทานเข้าไปให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าแป้งขนมปังกำลังละลายในปาก รสชาติเข้มข้นกลมกล่อมจากเนยที่หอมละมุนหวานมันอร่อย ลักษณะจะมีสีเหลืองทอง จะนำมาทานเป็นขนมปังเปล่า ๆ กับไส้กรอก ไข่ดาวยามเช้า หรือทำเป็นฮันนี่โทสต์ก็เลิศ ไม่เชื่อต้องลองทานเอง

ปังบริยอช

ปังบริยอช ขนมปังก้อนโต ฟูเนื้อบางเบา ที่สามารถทำทานเองได้ที่บ้าน

ปังบริยอช เป็นอีกหนึ่งชนิดของขนมปังทำง่าย ที่มีส่วนประกอบ วัตถุดิบในการทำไม่เยอะ แต่สามารถทำเป็นขนมปังที่แสนอร่อยฉ่ำเนยได้ ซึ่งวันนี้จะมาแบ่งปันบริยอช สูตร ดั้งเดิมจากต้นตำรับฝรั่งเศส แต่ก่อนที่เราจะไปลงมือทำขนมปังชนิดนี้ มาดูกันก่อนว่า ปังบริยอช ส่วนผสม มีอะไรบ้าง โดยจะต้องเตรียมให้พร้อมก่อนที่จะเข้าครัวลงมืออบขนมปัง

ส่วนผสม และวัตถุดิบในการทำ

1. แป้งสาลีอเนกประสงค์                     245               กรัม

2. เกลือ                                         1/2                ช้อนชา

3. เนยจืด                                       50                 กรัม

5. นมรสจืด                                    40                 กรัม

6. น้ำตาลทราย                                40                 กรัม

7. ยีสต์                                          1/2                ช้อนชา

8. ไข่ไก่                                         2                  ฟอง

9. ไข่ไก่เอาแต่ไข่แดง                     1                  ฟอง          

ส่วนผสม และวัตถุดิบที่ต้องจัดเตรียมก็มีเพียงเท่านี้ หาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าเลย เมื่อซื้อครบทั้งหมด 9 รายการแล้ว ก็ลงมืออบขนมกันเลย

ปังบริยอช

สอนทำขนมปังบริออช ทำอย่างไรให้อร่อย สูตรทำขนมเนื้อนุ่มละมุน กัดฟินทุกคำ

ปังบริยอชมีวิธีการทำที่ไม่ยากเลย เพียงแค่นำส่วนผสมทุกอย่าง มาผสมเข้าด้วยกัน แล้วขึ้นรูปนำไปอบเท่านั้น แต่ว่าแค่พูดคงไม่เห็นแนวทางการทำ ดังนั้นวันนี้จะมาสอนทำขนมปังบริยอช แบบละเอียดทุกขั้นตอน หากพร้อมสวมผ้ากันเปื้อน แล้วมาเรียนรู้กันว่าปังบริยอช วิธีทำมีกี่ขั้นตอน และต้องทำอะไรบ้าง

วิธีทำ

1. เตรียมโถปั่น ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ น้ำตาลทราย เกลือลงไป ต่อจากนั้นก็ใส่ยีสต์ แต่ต้องระวังไม่ให้ยีสต์สัมผัสกับเกลือโดยตรง แล้วปั่นให้เข้ากัน ตามด้วยไข่แดง 1 ฟอง และไข่ไก่ 2 ฟอง เทนมรสจืดลงไป

2. แต่งกลิ่นด้วยวานิลลา ตีส่วนผสมทุกอย่างด้วยให้เข้ากัน และใส่เนยจืดลงไป ไม่ใส่ลงไปทีเดียวหมด ค่อย ๆ ใส่ทีละนิด แล้วก็ตีต่อไปเรื่อย ๆ จากนั้นก็นวดจนเนื้อแป้งเนียน

3.ทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง ให้เนื้อแป้งฟู

4. นำมานวดต่อเพื่อให้ลมไหลออก แล้วนำมาตัดแบ่งเป็นก้อน ๆ

5. ขึ้นรูปใส่ลงไปในพิมพ์ ซึ่งจะต้องทาเนยลงไปให้ทั่วฟิล์มก่อน โรยแป้งทับเพื่อไม่ให้เนื้อขนมปังติดฟิลม เมื่อเสร็จแล้วพักไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง

6. ทาหน้าด้านบนขนมปังด้วยไข่แดง แล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที

7. เมื่ออบจนสุกแล้ว นำออกมาจากเตา แล้วทาเนยลงไปที่หน้าด้านบนอีกครั้ง พร้อมหั่นรับประทานได้เลย

          ปังบริยอชขนมปังสุดแสนอร่อยละมุนลิ้น ส่วนผสมหลักมีแค่แป้ง ไข่ และเนยเท่านั้น มาพร้อมกับวิธีการทำง่าย ๆ ดังนั้นหากใครอยากลองทานขนมปังจากแดนเมืองน้ำหอม อยากให้ทุกคนได้ทดลองทำเบเกอรี่โฮมเมด บริยอชชนิดนี้ดูที่บ้านเอง รับรองว่าต้องชอบในความนุ่ม และอร่อยอย่างแน่นอน

สนับสนุนโดย https://baccaratvip.casino/ เว็บพนันออนไลน์ เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ https://baccaratvip.casino/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C/

Categories
ขนมปัง

เมล่อนปัง ขนมปังเนื้อนิ่ม กลมน่ารัก ทำความรู้จักกับขนมสุดโปรดของโดเรมี่

เมล่อนปัง

เมล่อนปัง เป็นขนมมาจากแดนปลาดิบ ที่ยังไม่ค่อยนิยมมากนักในไทย เรามักจะเห็นขนมปังชนิดนี้ในเรื่องโดเรม่อน การ์ตูนยอดดวงใจใครหลายคน ซึ่งน้องของโดเรม่อน หรือโดเรมี่นั่นเอง โปรดปรานขนมชนิดนี้เป็นอย่างมาก โดยจะเป็นขนมปังรูปเมล่อน ไม่ได้มีส่วนผสมของเมล่อนเลย เนื้อสัมผัสของขนมปังด้านในจะนุ่ม ด้านนอกจะกรอบ หุ้มด้วยคุกกี้คลุกน้ำตาล เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนขนมปังชนิดไหน ๆ เลย จึงเป็นที่ชื่นชอบมากในประเทศญี่ปุ่น

เมล่อนปัง

เมล่อนปัง สูตรทำเองที่บ้าน ไม่ต้องไปทานไกลถึงญี่ปุ่น

เมล่อนปัง ถ้าจะหารับประทานในไทยก็คงยังไม่ค่อยมีขายเสียเท่าไหร่ ดังนั้นแนะนำว่าต้องทำทานเองที่บ้านจะง่ายกว่า ซึ่งวันนี้จะมาบอก สูตรเมล่อนปัง ตามแบบฉบับชาวญี่ปุ่น แต่ก่อนจะไปเรียนรู้วิธีการทำ มาดูกันว่า เมล่อนปัง ส่วนผสม และวัตถุดิบ ในการมีอะไรบ้าง

สำหรับทำขนมปังด้านใน

1. แป้งขนมปัง             280               กรัม

2. น้ำตาลทราย            50                 กรัม

3. นมผง                    10                 กรัม

4. ยีสต์แห้ง                 2                  ช้อนชา

5. เนยจืด                   30                 กรัม

6. น้ำ                        135               มิลลิลิตร

7. เกลือป่นเล็กน้อย

8. ไข่ไก                     1                  ฟอง

9. น้ำตาลทรายโรยหน้าเล็กน้อย

สำหรับทำคุกกี้กรอบด้านนอก

1. แป้งสาลีอเนกประสงค์           160               กรัม

2. เนยจืด                             70                 กรัม

3. น้ำตาลทราย                      70                 กรัม

4. ผงฟู                                2                  ช้อนชา          

เมื่อเตรียมครบแล้ว มาดูวิธีการทำ ปังเมล่อน ญี่ปุ่น กันเลย จะยากหรือง่ายต้องลองดู

เมล่อนปัง

สอนทำขนมปังเมล่อนญี่ปุ่นง่าย ๆ เข้าครัวลงมือทำเองได้เลย

เมล่อนปังจะมีวิธีการทำแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ก็คือส่วนของขนมปังด้านใน และส่วนของคุกกี้ด้านนอก มาดูกันเลยว่า ขนมปังญี่ปุ่น ชนิดนี้ มีวิธีการทำอย่างไร

เมล่อนปังวิธีทำ

1. ทำตัวขนมปังด้านใน

          – เตรียมเครื่องผสมอาหาร ใส่แป้งขนมปัง นมผง เกลือป่น น้ำตาลทราย และยีสต์ลงไป ตีให้เข้ากันจนเริ่มฟู นำไข่ไก่ผสมกับน้ำ แล้วเทลงไป ตามด้วยเนยจืด ตีต่อเรื่อย ๆ

          – เมื่อดูขนมปังผสมกันได้ที่แล้ว ก็นวดด้วยมือให้เนียนละเอียด พักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้เนื้อแป้งฟูกว่าเดิม

          – นำออกมารีดเป็นแผ่นบาง ๆ และปั้นเป็นก้อน 50 กรัม จำนวน 10 ก้อน

2. ทำส่วนคุกกี้ด้านนอก

          – เตรียมอ่างผสม ใส่น้ำตาลทราย เนย ตีให้เข้ากัน ตามด้วยไข่ไก่

          – ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไป ตามด้วยผงฟู

          – นวดผสมทุกอย่างให้เข้ากัน และนำไปแช่ในตู้เย็นสักพัก

          – นำออกมารีดเป็นแผ่นบาง ๆ และปั้นเป็นก้อน 50 กรัม จำนวน 10 ก้อน

วิธีการขึ้นรูปให้เป็นทรงเมล่อน

          – รีดแป้งคุกกี้ให้แบน แล้ววางแป้งขนมปังที่เป็นก้อนลงไป ห่อให้แน่น ๆ

          – วางหน้าขนมปังลงทับน้ำตาลทราย แล้วกรีดหน้าขนมให้เป็นร่องต้องค่อย ๆ กรีดเบา ๆ วางพักไว้สักครู่เพื่อให้ขนมฟู

          – นำไปอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส 15-20 นาที เป็นอันเสร็จเรียบร้อย สุกแล้วก็ทานได้เลยเมล่อนปังเป็นอีกขนมปังญี่ปุ่นที่น่ารับประทาน และหากทำขายรับรองว่าขายดีอย่างแน่นอน เพราะยังไม่ค่อยมีใครตีตลาดขนมปังชนิดนี้ ทั้งยังเป็น สูตรเบเกอรี่ญี่ปุ่น ง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้ เพียงแค่มีเตาอบและใจที่อยากทำเท่านั้น เพื่อน ๆ ท่านใดอยากลองฝีมือ สามารถนำสูตรนี้ไปทำตามได้เลยนะ ขนมต้องออกมาสวยอร่อยชัวร์

สนับสนันโดย https://baccaratvip.casino/ เว็บพนันออนไลน์ เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ https://baccaratvip.casino/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C/

Categories
ขนมปัง

ชิกิริปัง ขนมปังแนวใหม่ หน้าตาน่ารัก ทำทานเองได้ที่บ้าน หรือจะทำขายก็ปัง

ชิกิริปัง

ชิกิริปัง ขนมปังสุดน่ารัก แนวสไตล์รูปแบบใหม่ ที่มาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นกระแสฮิตมาก โดยความน่ารักของขนมที่สามารถทำเป็นรูปปั้นต่าง ๆ ได้ ให้ออกมาดูน่ารักจนไม่กล้าทานเลยทีเดียว วันนี้ก็เลยอยากมาบอกสูตรในการทำ สอนทำขนมปังแพตัวการ์ตูนรูปกระต่ายน้อย เนื้อนุ่มละมุน รสชาติอร่อยกลมกล่อม หรือหากใครอยากได้รูปร่างอะไรก็สร้างสรรค์ได้ตามความต้องการ ที่สำคัญตอนนี้ยังไม่ค่อยมีใครทำขายในไทย ดังนั้นมาฝึกฝีมือให้คล่อง แล้วทำขายสร้างอาชีพได้อีกด้วย กำไรงามอย่างแน่นอน เพราะว่าไม่เพียงแค่ความอร่อยเท่านั้น ยังต้องใช้ฝีมือ ศิลปะในการออกแบบรูปร่างของขนมปังให้หน้าตาน่ารัก แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใครเป็นจุดขายที่ดีเลย

ชิกิริปัง

ชิกิริปัง บอกส่วนผสมและวัตถุดิบในการทำ

ชิกิริปัง ส่วนผสม วัตถุดิบในการทำไม่เยอะ แต่ว่าต้องใช้ฝีมือในการทำสักนิดนึง เพราะเป็นขนมปังตัวการ์ตูน ที่ต้องสร้างรูปร่างให้ได้ตามที่ออกแบบ ดังนั้นต้องใช้ความประณีตสูงมาก และต้องมีสมาธิอีกด้วย ซึ่งการทำชิกิริปัง ขนมญี่ปุ่น จะต้องเตรียมวัตถุดิบในการทำขนมปังชิกิริปัง ดังนี้

ส่วนผสมในการทำ

1. แป้งขนมปัง             400     กรัม

2. เกลือป่น                 6        กรัม

3. นมจืดอุ่น                265     กรัม

4. น้ำตาลทราย            40       กรัม

5. ยีสต์แห้ง                 8        กรัม

6. เนยจืดไม่ละลาย        40       กรัม

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

1. ถาดอบขนมปัง

2. ตาขั่งดิจิทัล

3. สีเจลสำหรับทำอาหาร

4. DARK CHOCOLET PEN

5. เส้นสปาเก็ตตี้เส้นเล็กคั่วแห้ง

ชิกิริปัง

ขนมปังญี่ปุ่น วิธีการทำขนมปังแพตัวการ์ตูนกระต่ายน้อยสุดคิ้วท์

ชิกิริปัง ขนมปังแพการ์ตูนแปลกใหม่ น่ารักเกินกว่าใคร วันนี้จะมาสอนทำขนมปังน่ารัก ๆ แบบนี้ให้กับทุกคน เป็นสูตรเบเกอรี่โฮมเมด ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน โดยมีวิธีทำดังนี้

วิธีทำ

1. ผสมแป้ง น้ำตาลทราย เกลือป่นเข้าด้วยกัน และเทนมจืดแบบอุ่นลงไป พร้อมกับยีสต์แห่ง นวดให้เข้ากัน แล้วใส่เนยจืดลงไปนวดด้วย ถ้านวดไม่ไหวแนะนำว่าใช้เครื่องผสมอาหารช่วย เมื่อได้แป้งโดว์ที่ยืด เด้ง ไม่ขาดง่าย ก็คลุมด้วยพลาสติกใส พักไว้ 40-60 นาที แป้งจะฟูขึ้น

2. ไล่อากาศออกจากแป้งโดว์ โดยจิ้มนิ้วลงไปเบา ๆ แล้วเริ่มปั่นเป็นรูปร่างผสมสีเจลลงไปปั้นให้เป็นรูปที่ต้องการ แล้วเปิดวอร์มตู้อบที่ 160 องศาเซลเซียสเอาไว้

3. เมื่อปั้นให้เป็นตัวกระตายเรียบร้อยแล้วจัดวางลงถาดแล้วนำไปอบ 30 นาที

4. เมื่อแป้งสุกแล้ว ตกแต่งหน้าตา ให้น่ารักด้วย CHOCOLATE PEN และใช้เส้นสปาเก็ตตี้คั่วแห้งตกแต่งเป็นหูให้ดูดีกว่าเดิม เสร็จเรียบร้อย พร้อมทาน

          ชิกิริปังขนมปังแพการ์ตูนสุดน่ารักนี้ แนะนำเลยว่าหากใครอยากลองทำ ลองเลย ไม่ได้อยากเกินความสามารถนอกจากกระต่ายแล้ว ยังทำเป็นตัวการ์ตูนอื่น ๆ ได้ตามจินตนาการ ทำตาม สูตรขนมน่าทาน ที่นำมาแบ่งปันในวันนี้รับรองว่า อร่อย น่ารักเกินคำบรรยายใครเห็นก็ต้องหลง น่ารักจนไม่กล้ากินอย่างแน่นอน

สนับสนุนโดย https://pgallbet.info/ เว็บ http://พีจีสล็อตเว็บตรง ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ https://pgallbet.info/blog/pgslot%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%87/

Categories
ขนมปัง

ชูครีมสตรอเบอร์รี่ ไส้ครีมหวานอมเปรี้ยว สอดใส่สตรอเบอร์รี่ลูกโต กัดเต็มคำฟินมาก

ชูครีมสตรอเบอร์รี่ ขนมหวานที่กำลังมีกระแสอยู่ในตอนนี้ ซึ่งหลายคนอาจจะเคยลอง หรือยังไม่เคยได้ทานเลยสักครั้ง วันนี้จะมาแนะนำให้กับทุกคนได้รู้จัก ชูครีม หรือ CHOUX CREAM อ่านออกเสียงว่า ชูซ์ อา ลาเคร์ม ที่แปลว่า กะหล่ำปลี มีครีม นั้นเอง ต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส หน้าตาของขนมจะเป็นก้อนกลม ทำมาจากแป้งชู นม เนย และน้ำ รสชาติจะหวานมัน อร่อยมาก ๆ ดังนั้นวันนี้ จะมาสอนทุกคนทำเบเกอรี่ชนิดนี้กัน ทำกินก็อร่อย ทำขายก็ได้กำไรอย่างแน่นอน

ชูครีมสตรอเบอร์รี่ ส่วนผสม และวัตถุดิบในการทำ

ชูครีมสตรอเบอร์รี่ เป็นขนมที่มาจากแถบประเทศยุโรป ซึ่งต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในอดีตมีความรุ่งเรืองทางด้านอาหารมาก โดยเฉพาะเมนูขนมต่าง ๆ โดยวันนี้จะมาแจงรายละเอียดอย่างครบครันว่าชูครีมสตรอเบอร์รี่ ส่วนผสม และวัตถุดิบในการทำ มีอะไรบ้าง ที่ต้องจัดเตรียมให้พร้อม โดยส่วนผสมค่อนข้างจะเยอะนิดหน่อย แต่หาซื้อได้ไม่ยาก

ส่วนผสมในการทำเปลือกชูครีม

ส่วนที่ 1

1. เนยสดจืด                          70                 กรัม

2. น้ำตาล                             50                 กรัม

3. แป้งเค้ก                           70                 กรัม

4. เกลือ                               1/4                ช้อนชา

5. สีผสมอาหารสีชมพู

ส่วนที่ 2

1. น้ำสะอาด                         130               กรัม

2. เนยสดจืด                          60                 กรัม

3. เกลือ                               1/4                ช้อนชา

4. แป้งเค้ก                            90                 กรัม

5. ไข่ไก่เบอร์ 0                       3                  ฟอง

ส่วนผสมชูครีม

1. แดรี่วิปครีม                       300               กรัม

2. น้ำตาลไอซิ่ง                       50                 กรัม

3. สตรอเบอร์รี่สดชูครีมสตรอเบอร์รี่ สูตร ทำขาย ก็จะมีส่วนผสมประมาณนี้ จะแบ่งออกเป็นสามส่วนที่ต้องเตรียม อย่าลืมเตรียมกันให้ครบนะ

แจกสูตรทำชูครีม ไส้สตรอเบอร์รี่ลูกโต หวานฉ่ำ อร่อยมาก

ชูครีมสตรอเบอร์รี่ ขนมสุดแสนอร่อย ที่ใคร ๆ ก็ชื่นชอบ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมนู เบเกอรี่ทำง่าย ที่อยากให้ทุกคนได้ลองทำ รับรองว่าถ้าทำเป็นแล้ว นอกจากจะทำทานเองที่บ้าน ยังสามารถนำไปขายสร้างรายได้อีกด้วย โดย ชูครีมสตรอเบอร์รี่ วิธีทำ มีดังต่อไปนี้

1. ทำตัวเปลือกชูครีมก่อน แต่อย่าลืมเตรียมเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียสก่อน จากนั้นผสมน้ำ เนย นม น้ำตาล และเกลือลงในหม้อ ใช้ไฟปานกลาง ให้ความร้อนเรื่อย ๆ และต้องใช้ไม้พาย คนส่วนผสมให้เข้ากัน

2. เมื่อเนยละลาย ให้ใส่แป้งลงไปคนให้เร็วยิ่งขึ้น จนกระทั่งแป้งจับตัว ไม่ติดก้นหม้อ ปิดไฟ ยกลงจากเตา รอให้หายร้อน พออุ่นก็ใส่ไข่ไก่ลงไปทีละฟอง

3. คนส่วนผสมจนเนื้อเนียน ตักใส่ถุงบีบ และบีบลงในถาดอบ ซึ่งต้องรองด้วยกระดาษไข บีบลงไปให้ได้ขนาดพอดี เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้ว แล้วทาไข่เคลือบผิวหน้า

4. ลดอุณหภูมิเตาอบให้อยู่ที่ 160 องศาเซลเซียส นำเข้าอบประมาณ 30 นาที

5. หลังอบแล้ว แป้งจะมีสีเหลือง พองตัวสวยงาม นำออกจากเตาพักให้เย็น แล้วผ่าครึ่งตรงกลาง เตรียมไว้

6. ต่อมาทำครีมโดยผสมสตรอเบอร์รี่บด น้ำตาล เข้าด้วยกัน โดยใช้ความร้อนละลายพักไว้ จากนั้นตีวิปครีมให้ฟู ผสมลงไปตักใส่ถุงบีบ

7. บีบครีมสตรอเบอร์รี่ลงไปตรงกลางแป้งชูครีมที่ผ่าครึ่ง และใส่ลูกสตรอเบอร์รี่สดลงไป โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งชูครีมสตรอเบอร์รี่ ก็มีขั้นตอนการทำเพียงเท่านี้ ง่ายไหมเอ่ย     

ชูครีมสตรอเบอร์รี่ทำเอง อร่อยด้วยฝีมือเรา ครีมแน่น ๆ สตรอเบอร์รี่ลูกโต ๆ กับแป้งชูนุ่ม อร่อยมากเลยเชียวแหละ อย่าลืมไปลองทำกันดูนะ

Categories
ขนมปัง

ไทยากิ ขนมสุดน่ารัก สไตล์ญี่ปุ่น อร่อยมาก แป้งนุ่มละมุนลิ้น

ไทยากิ ขนมที่มาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นขนมไข่ แต่ว่าทำให้มีรูปร่างหน้าตาเป็นปลาไท หรือปลากะพงแดงญี่ปุ่นนั่นเอง โดยปลากะพงญี่ปุ่นเป็นปลามงคล ความหมายดี น่ารักมาก ๆ ตัวของปลาทำมาจากแป้งสาลี สอดไส้ด้วยถั่วแดง แต่ในปัจจุบัน ได้มีการปรับเปลี่ยนรสติของไส้ให้หลากหลายมากขึ้น มีทั้งไส้ครีม ชาเขียว เกาลัด และช็อกโกแลต เป็นต้น แนะนำเลยว่าห้ามพลาด ต้องลองสักครั้ง แต่ว่าก็ค่อนข้างหาทานได้ยากเช่นกัน ดังนั้นวันนี้จะมาแจกสูตรในการทำขนมไข่รูปปลานี้ให้กับทุกคน เตรียมปากกา สมุดมาจดให้พร้อมแล้วมาเริ่มทำกันเลย

ไทยากิ ส่วนผสม และวัตถุดิบในการทำ เตรียมให้ครบ อย่าให้ขาด

ไทยากิ มีส่วนผสม และวัตถุดิบในการทำน้อยมาก ไม่ยุ่งยาก และหาซื้อได้ง่าย เป็น ขนมญี่ปุ่น ที่น่าลองทำเป็นอย่างมาก จะทำทานเองที่บ้านก็ได้ หรือทำขายก็ดี เพราะว่ารูปร่างหน้าตาโดดเด่น รสชาติอร่อย จึงเป็นที่น่าสนใจ ดึงดูดลูกค้าให้ลิ้มลอง ดังนั้นมาดูกันเลยว่า การที่จะทำไทยากิ ขนมรูปปลา จะต้องเตรียมอะไรบ้าง

ส่วนผสม และวัตถุดิบในการทำ

1. ไข่ เบอร์1 ทั้งฟอง                          3                   ฟอง

2. ไข่แดง เบอร์1                               1                   ฟอง

3. น้ำตาล                                     120               กรัม

4. กลิ่นวานิลลา                                1                   ช้อนชา

5. แป้งเค้ก                                      90                 กรัม

6. เกลือ                                         1/8                ช้อนชา

7. นม                                           25                 มิลลิลิตร

8. เนยสดจืด                                   25                กรัม

9. ถั่วแดงกวน                                 200               กรัม          

ส่วนผสมทั้งหมดนี้ จะสามารถทำขนมไขรูปปลาได้ประมาณ 18-20 ตัว ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป เตรียมให้พร้อม แล้วเข้าครัวกันเลย

แจกสูตร สอนทำขนมไข่รูปปลา สุดน่ารัก ใครเห็นก็สะดุดตา อยากลิ้มลอง

ไทยากิมีขั้นตอนการทำที่ง่ายมาก ๆ ไม่ยุ่งยากเลย ดังนั้นวันนี้จะมาแจก สูตรขนมทำง่าย ให้กับทุกคน ได้ไปลองทำที่บ้าน หากทำแล้ว พัฒนาฝีมือ คล่องมากยิ่งขึ้น ก็ทำเป็นอาชีพเสริมก็ได้ ดังนั้นหากพร้อมแล้ว ใส่ผ้ากันเปื้อน และเข้าครัวกันเลย

ไทยากิ วิธีทำ ขนมรูปปลา

1. ขั้นตอนแรก เตรียมชามผสม ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป ตามด้วยน้ำตาล แล้วตีให้เข้ากัน

2. เมื่อตีจนเนื้อเนียนแล้ว ก็นำไปตั้งไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟอ่อน อย่าให้เดือด ต้มประมาณ 6-7 นาที การเช็คอุณหภูมิ สามารถทำได้โดยเอานิ้วแตะดู ถ้าแตะได้อุ่น ๆ ถือว่ากำลังดี ยกลงจากเตา

3. ละลายเนย ในน้ำนมตั้งหม้อให้ร้อน เมื่อละลายหมดแล้ว ใส่ลงไปในหม้อก่อนหน้า แล้วตีไข่ให้ขึ้นฟู ใส่วานิลาลงไป แล้วตีด้วยความเร็วต่ำ ให้ส่วนผสมเข้ากัน และเป็นการไล่ฟองอากาศออก

4. ใส่แป้งและเกลือ ที่ร่อนแล้วลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำประมาณ 1 นาที

5. ทาเนยลงในกระทะไทยากิและอุ่นให้ร้อน จากนั้นเทแป้งที่ผสมแล้วลงไปครึ่งนึ่ง ตามด้วยถั่วแดงกวย และเทแป้งทับ ปิดฝา พลิกด้าน ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที เนื้อแป้งก็จะสุกพร้อมทาน ไทยากิ ก็มีขั้นตอนการทำเพียงเท่านี้ แต่ว่าการทำจะต้องมีกระทะพิมพ์รูปปลาด้วย ซึ่งไทยากิ รสชาติ จะหวาน และเค็มเล็กน้อย ใครอยากทำทาน ก็สามารถนำสูตรนี้ไปลองได้เลยนะ อร่อยชัวร์

Categories
ขนมปัง ขนมไทย

ขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็ม สูตรแป้งนุ่มยืด ไส้แน่น อร่อยทุกคำที่ทาน

ขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็ม เป็นเมนูขนมที่น่าทานมาก และทำขายได้ดีเลยทีเดียว ทำมาเท่าไหร่ก็ไม่พอ เนื่องจากว่ามีคนชอบทานเยอะมาก เนื้อแป้งนุ่ม ๆ ยืด ๆ ไส้ไข่เค็มลาวาเยิ้ม ๆ บอกเลยแค่คิดถึงภาพก็หิวแล้ว หน้าตาน่ารับประทานมาก สีเหลืองสวยสดใส โดยแท้จริงแล้ว ขนมเปี๊ยะ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน มีชื่อเรียกตามเดิมว่า “ผั่วเปี๊ยะ” มักนิยมทำมาเลี้ยงในงานมงคล ซึ่งคนไทยก็ได้รับสูตรนี้มาจากชาวจีนที่อพยพเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ตั้งแต่ในอดีต และมีการปรับแต่งสูตรใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความอร่อย และสร้างจุดขายมากยิ่งขึ้น

ขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็ม แจกสูตรสอนทำ บอกส่วนผสมแบบละเอียดยิบ ทำตามได้เลย

ขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็ม เป็นอีกหนึ่งเมนู อาหารว่าง ทำขายได้กำไรงาม ขนมเปี๊ยะ ราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากว่า ส่วนผสม ขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็ม มีหลายรายการมาก เนื่องจากว่าขนมเปี๊ยะ เป็นขนมที่เป็นชั้น ๆ แป้งชั้นในชั้นนอกจะแตกต่างกัน และมีการยัดไส้ข้างในอีกด้วย จึงทำให้ต้องใช้ส่วนผสมเยอะ และการทำต้องใช้เวลานาน ใช้ความประณีตสูง ดังนั้นก่อนที่จะไปเรียนรู้วิธีการทำ มาดูกันก่อนว่า ต้องเตรียมอะไรบ้าง

ส่วนผสมสำหรับทำแป้งชั้นใน

1. แป้งสาลีอเนกประสงค์                  1½                ถ้วยตวง

2. น้ำมันพืช                                    5                   ช้อนโต๊ะ

3. ไข่แดงไข่ไก่                               2                   ฟอง

4. น้ำเปล่า                                      2                   ช้อนโต๊ะ

5. สีผสมอาหารสีเหลืองไข่               1                   ช้อนชา

6. ไข่แดงทาหน้าขนม

ส่วนผสมแป้งชั้นนอก

1. แป้งสาลีอเนกประสงค์                  3                   ถ้วยตวง

2. น้ำตาลทราย                               5                   ช้อนโต๊ะ

3. น้ำเปล่า                                     165               มิลลิลิตร

5. น้ำมันพืช                                    1/2                ถ้วยตวง

ส่วนผสมสำหรับทำไส้ไข่เค็มลาวา

1. ไข่แดงเค็ม(นึ่งสุก)                       15                 ลูก

2. แป้งข้าวโพด                               150               กรัม

3. เนยจืด(ละลาย)                            90                 กรัม

4. นมข้นจืด                                    225               มิลลิลิตร

5. น้ำตาลทราย                               180               กรัม

6. เกลือป่น                                     1/4                ช้อนชา

***อย่าลืมเตรียมงาขาว และงาดำ สำหรับโรยตกแต่งหน้าอีกด้วยนะ

HOW TO ทำขนมเปี๊ยะ ยัดไส้ไข่เค็มลาวาอย่างไรให้อร่อย

ขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็มเป็นขนมที่ต้องใช้เวลาในการทำ ผู้ทำต้องใจเย็น และประณีต ซึ่งวันนี้จะมาแจก สูตร ขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็ม ให้กับทุกคน การันตีเลยว่าสูตรนี้อร่อยชัวร์ 100% มาดูกันเลยว่า วิธีทำ ขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็ม  มีวิธีการทำอย่างไรบ้าง

1. ทำไส้ไข่เค็มก่อน นำส่วนผสมตามที่บอกข้างต้น ในการทำไส้ มาปั่นให้ละเอียด แล้วเทใส่พิมพ์ซิลิโคน จากนั้นนำไปแช่แข็งจนกว่าไส้จะแข็งตัว

2. ต่อมาทำแป้งชั้นนอก โดยละลายน้ำตาลในน้ำเปล่า แล้วเติมน้ำมันลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำไปเทใส่แป้ง แล้วนวดจนแป้งเนียน แล้วพักแป้งประมาณ 15 นาที จากนั้นนำไปตัดเป็นก้อน ก้อนละ 12 กรัม

3. ทำแป้งชั้นนอก นำแป้งมาผสมกับน้ำมัน นวด แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ต่อจากนั้นนำมาตัดแป้งเป็นก้อน แต่ละก้อนให้ได้น้ำหนักประมาณ 28 กรัม

4. นำแป้งชั้นนอกมาทำให้เป็นแผ่น แล้วซ้อนด้วยแป้งชั้นในทิ้งไว้สักพัก นำไส้มาใส่ แล้วปั้นให้เป็นทรงกลม เมื่อปั้นเสร็จแล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที

5. ทำสีทาหน้าขนม โดยผสมน้ำเปล่า สีผสมอาหาร และไข่แดง คนให้เข้ากัน เมื่อครบเวลาอบแล้ว นำขนมออกมาทาหน้า ทาซ้ำประมาณ 2 ครั้ง โรยหน้าขนมด้วยงา แล้วนำไปอบต่อ 5 นาที

6. นำออกมาจากเตาอบ แกะออกจากแม่พิมพ์ พร้อมเสิร์ฟขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็มถึงแม้จะมีส่วนผสม และขั้นตอนการทำที่ค่อนข้างจะยุ่งยาก แต่บอกเลยว่าคุ้มมาก เพราะอร่อยสุด ๆ ยิ่งทำขายนะ ขายดีเทน้ำเทท่าอย่างแน่นอน เป็นอีกหนึ่ง สูตรเบเกอรี่โฮมเมด ที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ทำตาม รับรองว่าอร่อยกว่าร้านที่เคยซื้ออย่างแน่นอน

Categories
ขนมปัง

สูตร กะหรี่ปั๊บ แป้งกรอบ ไส้แน่น ไม่อมน้ำมัน

เมนูของว่างสุดฮิตที่ยิ่งกินยิ่งกรอบ หอมกลิ่นเครื่องเทศ กินแล้วอิ่มแทนอาหารหลักยังได้นั่นก็คือ กะหรี่ปั๊บ ของขึ้นชื่อจังหวัดสระบุรี แต่ก็มีให้เห็นในทุกจังหวัดทุกภาคเลย ตัวขนมจะมีลักษณะเหมือนกาบหอย จะเห็นว่ากะหรี่ปั๊บที่กรอบมากๆแป้งจะร่อนออกมาเป็นแผ่นๆเลย วันนี้เราเลยมีสูตรแป้งกะหรี่ปั๊บกรอบนาน ข้ามวันก็ยังกรอบอยู่มาฝากค่ะ

สูตรกะหรี่ปั๊บวัตถุดิบและวิธีทำ

ส่วนผสมแป้งชั้นใน

แป้งสาลีอเนกประสงค์ 140 กรัม

น้ำมันพืช 6 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมแป้งชั้นนอก

แป้งสาลีอเนกประสงค์ 270 กรัม

น้ำมันพืช 6 ช้อนโต๊ะ

น้ำปูนใส 150 กรัม

น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

เกลือ 1 ช้อนชา

นำส่วนผสมของแป้งชั้นในผสมให้เข้ากันแล้วพักไว้img.jpgผสมส่วนผสมแป้งชั้นนอกให้เข้ากัน แบ่งเป็นก้อนประมาณ 65 กรัม รีดแป้งเป็นแผ่นกลมๆ แบ่งแป้งชั้นในให้มีจำนวนเท่ากับแป้งชั้นนอก นำมาวางบนแป้งชั้นนอกแล้วห่อให้มิด จากนั้นรีดแป้งให้บางเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า รีดประมาณ 2 รอบ รอบสุดท้ายม้วนแป้งเข้าหาตัว คลึงแป้งให้เรียบ ตัดแป้งออกเป็น 3 ส่วน เวลาห่อไส้ให้หงายด้านที่เป็นรอยตัดขึ้นแล้วกดให้แบน คลึงแป้งออกเพื่อเตรียมใส่ไส้ ไม้คลึงแป้งจะเป็นอุปกรณ์กะหรี่ปั๊บที่สำคัญมากๆเลย เพราะกะหรี่ปั๊บจะกรอบหรือไม่นั้นอยู่ที่ขั้นตอนของการเตรียมแป้งเลยค่ะ

การห่อกะหรี่ปั๊บให้ใส่ไส้พอประมาณ สามารถคลุมปิดไส้ได้โดยที่ไส้ไม่ทะลัก ห่อด้วยการประกบแป้งเข้าด้วยกัน แล้วจับจีบให้สวยงาม อีกหนึ่งวิธีทำกะหรี่ปั๊บง่ายๆคือการใช้แป้งกะหรี่ปั๊บสำเร็จรูป ก็สามารถทำกะหรี่ปั๊บง่ายๆโดยไม่ต้องนวดแป้งให้เสียเวลา สำหรับวิธีเก็บกะหรี่ปั๊บที่ยังไม่ทอดนั้น ให้ใส่กล่องแล้วเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้เลยค่ะ

มาดูในส่วนของไส้กะหรี่ปั๊บกันบ้าง ไส้ที่นิยมและเข้ากับตัวขนมมากที่สุดคือไส้ไก่ เราจะได้กลิ่นผงกะหรี่ของหอมๆ ความเค็มพอดีๆ และความเผ็ดของเครื่องเทศ

ส่วนผสมไส้ไก่

เนื้ออกไก่ 200 กรัม

มันฝรั่งต้มสุก 300 กรัม

หอมหัวใหญ่ 100 กรัม

ซอสปรุงรส 2-3 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย 60 กรัม

เกลือป่น 1 ช้อนชา

พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

ผงกะหรี่ 1 1/2 ช้อนชา

ผัดหอมหัวใหญ่ให้สุกแล้วใส่เนื้อไก่ลงไป ตามด้วยมันฝรั่ง ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาล ผงกะหรี่ เกลือ และพริกไทย ผัดให้แห้งเลยนะคะเวลานำไปใช้ขนมจะได้ไม่แฉะ

สูตรกะหรี่ปั๊บไส้ถั่ว

ถั่วเขียวเราะเปลือก 1 1/2 ถ้วยตวง

กะทิ 2 ถ้วยตวง

น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง

เกลือป่น 1 ช้อนชา

ล้างถั่วเขียวให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ 4-5 ชั่วโมงจนนิ่ม นำไปนึ่งให้สุก ปั่นรวมกับกะทิจนเป็นเนื้อเนียนละเอียด กวนถั่วเขียวในกระทะเทฟล่อน ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน กวนไปเรื่อยๆโดยใช้ไฟอ่อนประมาณ 30 นาทีจนถั่วไม่ติดกระทะ พักไว้ให้เย็นแล้วนำไปใส่ไส้ขนมได้เลย

สูตรกะหรี่ปั๊บทำขาย ร้านไหนที่ต้องการทำ กะหรี่ปั๊บ เป็นจำนวนมากอาจจะใช้วิธีการอบแทนการทอดก็ได้ เพราะการอบแต่ละครั้งจะได้ในปริมาณที่มากกว่า สามารถประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย สูตรกะหรี่ปั๊บอบจะทำให้ได้ขนมที่มีสีเหลืองทองเท่าๆกัน และที่สำคัญไม่อมน้ำมันอีก สามารถใช้ได้ทั้งเตาอบและหม้ออบลมร้อน

เคล็ดลับการทำกะหรี่ปั๊บ นำกะหรี่ปั๊บไปอบที่อุณหภูมิ 160 องศาประมาณ 10-15 นาทีแล้วจึงนำมาทอดกะหรี่ปั๊บไม่อมน้ำมันแน่นอนค่ะ เวลาทอดให้ทอดในน้ำมันร้อนจัด ใช้ตะแกรงรองทอดเพื่อไม่ให้ตัวกะหรี่ปั๊บจมลงก้นกระทะ แป้งจะได้ไม่ติดกระทะ และอย่าทอดจนสีเข้มมาก ให้ทอดแค่ตัวขนมสีเหลืองทองก็พอค่ะ

Categories
ขนมปัง

รวมสูตร พายสับปะรด ง่ายๆ ทำกินได้ ทำขายรวย

พายสับปะรดเป็นขนมที่สามารถดัดแปลงเป็นรูปทรงต่างๆได้ แป้งพายกรอบนอกนุ่มใน กับไส้สับปะรดกวนเปรี้ยวอมหวาน หากกินตอนอบเสร็จใหม่ๆจะรู้สึกสดชื่นมากๆค่ะ วันนี้เรามีวิธีทำพายสับปะรดง่ายๆมาฝากกันค่ะ พายสับปะรด ส่วนผสมหลักเลยคือตัวไส้สับปะรดกวน เป็นตัวแปรสำคัญของรสชาติขนมเลย

มาดูส่วนผสมและวิธีทำไส้สับปะรดกวนกันก่อนเลยค่ะ

ส่วนผสมไส้สับปะรด

สับปะรด 350 กรัม

น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง

เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

นมสดจืด 1 ถ้วยตวง

เนยสดเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ

แป้งข้าวโพด 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

น้ำเปล่าสำหรับละลายแป้งข้าวโพดเล็กน้อย

หั่นสับปะรดเป็นชิ้นเล็กๆ จะใช้สับปะรดสดหรือสับปะรดในน้ำเชื่อมก็ได้ ใส่ลงในหม้อ ตามด้วยน้ำตาลและเกลือ เคี่ยวประมาณ 20 นาทีโดยใช้ไฟกลาง จากนั้นหรี่เป็นไฟอ่อนสุด เคี่ยวจนน้ำเชื่อมงวดลง เติมนมสดและเนยคนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่แป้งข้าวโพดที่ละลายน้ำแล้วลงไป คนจนส่วนผสมข้นขึ้นแล้วปิดเตาพักไว้

เห็นส่วนผสมแล้วใส่ทั้งเนยสด และน้ำตาล หลายๆคนคงกำลังคิดว่าพายสับปะรดกี่แคลกันนะ พายสับปะรด 1 ชิ้น ให้พลังงาน 480 แคลอรี่ค่ะ ใครที่ชอบกินก็ลองคำนวณแคลอรี่ดูนะคะ แต่หากใครที่ไม่ต้องการความหวานมากเราก็มีสูตรพายสับปะรดแบบหวานน้อยมาฝากด้วยค่ะ

ส่วนผสมไส้สับปะรด (สูตรหวานน้อย)

สับปะรด 500 กรัม

น้ำตาลทราย 90 กรัม

เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

เนยสด 1/2 ช้อนโต๊ะ

ตั้งหม้อไฟกลางใส่สับปะรดสับ เติมน้ำตาลทรายกับเกลือป่นลงไป คนให้เข้ากันจนเหนียวเป็นก้อน ปิดไฟแล้วใส่เนยสด คนให้เข้ากันอีกครั้ง

มาดูในส่วนของแป้งพายกันบ้างค่ะ หลายคนอาจจะยังงงๆว่าพายสับปะรดกับคุกกี้ไส้สับปะรดมันเหมือนกันไหม ตัวพายสับปะรดแป้งพายจะบางกว่า อบเสร็จแล้วจะกรอบนอกนุ่มใน ส่วนคุกกี้พายสับปะรดเนื้อจะร่วนเหมือนคุกกี้ทั่วไปเลย หากอยากลองทำขายให้ลองดูพายสับปะรดใน 7-11 ได้เลยค่ะ เพราะมีทุกรูปแบบเลย

Categories
ขนมปัง

ขนมปังสังขยา แจกสูตรเด็ดสร้างรายได้

ขนมปังสังขยาใบเตย ส่วนใหญ่นิยมรับประทานกันในช่วงเย็นๆ ทานคู่กับน้ำเต้าหู้ นมสด ชาร้อนๆ จะลงตัวเลยทีเดียว เข้ากันมากๆเลยละค่ะ วันนี้จะมานำเสนอวิธีการทำ ขนมปังสังขยา มาฝากเพื่อนๆ เผื่อเพื่อนๆสนใจ จะลองทำในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ให้คนในครอบครัวลองชิมกันบ้าง หรือใครกำลังมองหาอาชีพเสริมหรืออาชีพประจำ อยากสร้างรายได้อยู่ลองหาที่ทำเลดีดีเปิดร้าน ขนมปังสังขยา เป็นเมนูที่กินได้ทั้งเช้า กลางวันและเย็นเลยทีเดียว ยิ่งช่วงคนเลิกงานจะขายดีมาก

มาดูสูตร ขนมปังสังขยา วัตถุดิบและวิธีทำกันเลย

ขนมปังสังขยาจะแนะนำให้เพื่อนๆลองทำ ขนมปังสังขยาใบเตย เป็นอย่างแรก หากลองทำจนเชียวชาญแล้วอาจจะดัดแปลงเป็นสังขยาอื่นๆ เช่น สังขยาชาไทย สังขยาอัญชัน สังขยาเผือก แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยจ้า

ส่วนผสมขนมปังสังขยาใบเตย
1.ไข่ไก่ 2 ฟอง

2.หัวกะทิ 1 ถ้วย

3.นมข้นจืด 2 ถ้วย

4.น้ำใบเตย 1/2 ถ้วย

5.นมข้นหวาน 1/2 ถ้วย

6.น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ

7.เกลือ 1/4 ช้อนชา

8.แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ

9.ขนมปังกะโหลก

วิธีทำขนมปังสังขยาใบเตย

1. นำใบเตยมาล้าง แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปใส่ในเครื่องปั่น ใส่น้ำเปล่าลงไปแล้วปั่นให้ละเอียด นำมาคั้นและกรองน้ำใบเตยออกมาให้ได้ประมาณ 4-5 ช้อโต๊ะ       

2. การผสมไข่ไก่ ตีไข่ไก่ให้เข้ากัน (ใช้ตะกร้อมือตีจะดีมาก) จากนั้นใส่หัวกะทิ นมข้นจืด และน้ำใบเตย เกลือตามลงไป คนให้เข้ากันอย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อน                                                                                         3. ผสมนมข้นหวาน น้ำตาลทราย เกลือ  และแป้งข้าวโพด                                                                                        

4. นำกระทะใส่น้ำเปล่าตั้งไฟอ่อนๆ แล้วนำส่วนผสมมาทั้งหมด คนให้ส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันได้ที่แล้วนำมาวางในกระทะ คล้ายๆตุ๋น จากนั้นก็นำส่วนผสมไปกรองผ่ากระชอนตาถี่ จากนั้นให้นำไปกวนบนน้ำเดือด คนจนสังขยาเหนียวข้น เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยเพียงแค่นี้เราก็จะได้สังขยาใบเตย สำหรับรับประทานกับขนมปังนึ่ง หรือว่าปาท่องโก๋ เวลาทานควรราดนมข้นจืดไปนิดหน่อยเพื่อรสชาติที่ดี

วิธีทำขนมปังนุ่มๆ

นำขนมปังกะโหลกมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ นำขึ้นนึง 20 วินาที เสร็จแล้วเสิร์ฟพร้อมกับสังขยาใบเตย เติมนมข้นจืดให้มีความมันมากยิ่งขึ้น แนะนำกินตอนอุ่นๆ ขนมปังจะยิ่งนุ่มลมุนลิ้นเลยทีเดียว

บทสรุปสุดท้าย

สำหรับคำพังเพยไทย กินคาวต้องกินหวาน มันช่างเป็นอะไรที่เราเห็นด้วยมาก เพราะเมื่อเรากินของคาวเสร็จก็ต้องตบท้ายด้วยของหวานให้ชื่นใจ ให้น้ำตาลในเลือดกระชุ่มกระชวยบ้างขนมปังสังขยา เป็นของหวานง่าย ๆ ทั้งหวาน หอม ข้น มันเหมาะสำหรับใครที่อยากหาขนมปังรสชาติอร่อยปิดท้ายมื้อเย็นนี้ เพื่อนๆสามารถเอาสูตรนี้ไปลองทำกันดูนะคะ รับรองว่าถูกใจแน่นอน ส่วนความหวาน ความมัน สามารถเพิ่มได้ตามใจชอบเลย

Categories
ขนมปัง

มาแจกสูตร หมั่นโถว ทำได้ง่ายๆไม่ยากเลย

หลายๆคนคงจะรู้จัก หมั่นโถว ที่คล้ายกับซาลาเปาแต่ต่างกันที่รูปทรง และไม่มีไส้ ซึ่งเจ้าหมั่นโถวเนี่ย แอดชอบมากเลยแหละค่ะ ยิ่งถ้าได้กินตอนร้อนๆนะแป้งมันจะนุ่มๆ เข้าปากไปทีนี่ฟินเลยแหละค่ะ ยิ่งกินกับชาหอมๆเนี่ยยิ่งเข้ากันดีทีเดียวเลยค่ะ และแอดก็เลยมาลองคิดว่าจะลองทำหมั่นโถวทานเองจะเวิร์คมั้ยนะ หลังจากนั้นแอดก็ได้ทำการค้นหาสูตรที่คิดว่าทำง่ายให้เพื่อนๆสามารถทำตามกันได้ โดยสูตรที่แอดได้ทำการหามานี้ รับรองว่าไม่ยากแน่นอนค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปเริ่มกันเลย

ที่มาของ หมั่นโถว วัตถุดิบและวิธีทำมาดูกันเลย

แต่ก่อนที่จะเริ่มแอดขอบอกที่มาคร่าวๆของ หมั่นโถว สักหน่อยดีกว่าเผื่อหลายๆคนยังไม่รู้ที่มาที่ไป หมั่นโถวก็คือซาลาเปาที่ไม่มีไส้ โดยเราสามารถเอามากินคู่กับของคาวหรือของหวานก็ได้ค่ะสามารถปรับได้ตามความชอบเลย และหมั่นโถวปัจจุบันก็จะมีหมั่นโถวที่มีไส้เพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น หมั่นโถวฟักทอง และหมั่นโถวได้ถือกำเนิดมาตั้งแต่ยุคชุนชิวหรือยุคจ้านกว๋อ ประเทศจีนค่ะ ถือว่าเป็น หมั่นโถวโบราณ แบบดั้งเดิมที่จะเป็นแค่ตัวแป้งอย่างเดียวไม่มีไส้ เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มลงมือทำกันเลย

ส่วนผสม

-แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม

-น้ำตาล 15 กรัม

-ผงฟู 3 กรัม

-ยีสต์ 4 กรัม

-น้ำ 140 มิลลิกรัม

วิธีทำซาลาเปาหมั่นโถว

1.ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม + ผงฟู 3 กรัม + ยีสต์ 4 กรัม + น้ำตาล 15 กรัม ลงในภาชนะ และทำการคลุกส่วนผสมให้เข้ากัน

2.ใส่น้ำ 140 มล. แต่ว่าอย่าใส่ทีเดียวนะคะ ค่อยๆใส่ทีละนิด และคนให้เนื้อเข้ากันดีแล้วค่อยเทใส่เพิ่มลงไปอีก และทำการคนให้ส่วนผสมเข้ากันค่ะ

3.เมื่อเนื้อแป้งจับตัวเป็นก้อนแล้ว ให้นำออกมานวดด้วยมือ หลังจากที่เรานวดแป้งเสร็จ ให้พักแป้งประมาณ 10 นาที แล้วจึงนวดต่อรอบ 2 อีก 1 นาที

4.เมื่อนวดแป้งเสร็จ ให้นำพลาสติกแรปมาคลุมค่ะ แต่คลุมแค่หลวมๆไม่ต้องแน่น ทิ้งไว้ 20 นาที

5.หลังจากที่เราพักแป้งเสร็จ ให้เรานำแป้งออกมาจากพลาสติกแรป แล้วทำการนวดเพื่อเตรียมขึ้นรูป โดยเราจะทำการตัดแป้งเป็นท่อนๆค่ะ เพื่อนๆสามารถทำเป็นรูปวงรี หรือกลมๆตามที่เราชอบได้เลยนะคะ

6.เราจะทำการพักแป้งไว้ในหม้อนึ่ง 1 ชม. โดยเราจะยังไม่ต้องตั้งไฟ เพื่อนๆจะสังเกตได้ว่าหลังจากที่เราพักแป้งเสร็จ ตัวแป้งจะยายขึ้น จากนั้นให้เราทำการนึ่งบนน้ำเดือด 10 นาทีได้เลยค่ะ หลังนึ่งเสร็จก็จะได้แป้ง หมั่นโถวร้อนๆพร้อมรับประทานค่ะ

บทสรุปสุดท้าย

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อนๆ การทำหมั่นโถว ไว้รับประทานเองไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะคะ และแอดจะบอกว่าเพื่อนๆสามารถไปดัดแปลงหรือเอาไปแมทกับอย่างอื่นได้เลยนะคะ อย่างมีสูตรนึงที่ตอนแรกแอดเองก็สนใจ อย่าง สูตรทำหมั่นโถวมันม่วง แอดว่ามันม่วงนุ่มๆหอมๆน่าจะผสมผสานเข้ากันดีกับแป้งหมั่นโถวไม่น้อยเลยแหละค่ะ อ้อ แล้วก็อีกเมนูนึงที่แอดเอามากินคู่กับหมั่นโถวก็คือขาหมูค่ะ หรือเขาจะเรียกเมนูนี้ว่าหมั่นโถว ขาหมู ฟังดูมันเหมือนไม่น่าจะเข้ากันใช่มั้ยคะ แต่พอลองทานมันดีมากเลยค่ะ คนที่เค้าคิดเมนูนี้คือสุดยอดมาก ยังไงเพื่อนๆก็ลองเอาไปปรับทำตามกันดูน้า