Categories
เค้ก

อยู่บ้านไม่มีเตาอบแต่อยากเริ่มต้นทำ คัพเค้ก ง่าย ๆ ทำไงดี

หากจะเริ่มต้นลองทำเมนูขนมง่าย ๆ ที่บ้าน ด้วยตนเอง ยังไม่ค่อยมีอุปกรณ์ทำขนมครบครัน อย่างเตาอบ หรือตะกร้อมืออัตโนมัติ หรือแม้กระทั่งยังไม่ค่อยมีความรู้พื้นฐานเรื่องแป้งทำขนม ส่วนผสมอื่นใด วันนี้ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องเหล่านั้นอีกต่อไป หากคุณจะเริ่มทำขนมเค้กง่าย ๆ สักเมนู เพราะว่าเราจะขอนำสูตร คัพเค้ก ที่เป็นสูตรคัพเค้ก ไม่ใช้เตาอบ หรือ คัพเค้กนึ่ง มาฝากกัน สูตรนี้เอาใจคนชอบเนื้อเค้กหนึบ ๆ แน่น ๆ และช็อกโกแลตเต็ม ๆ คำ ไม่หวานมาก ออกไปขมนิด ๆ  ตามมาดูสูตรกันเลยดีกว่า

ส่วนประกอบของคัพเค้ก

  1. แป้งข้าวเจ้า 70 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 50 กรัม
  3. ผงฟู 1 ช้อนชา
  4. ผงโกโก้ 30 กรัม
  5. กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
  6. นมอัลมอนด์ 130 กรัม
  7. ช็อกโกแลต 30 กรัม

วิธีทำ คัพเค้ก

ขั้นตอนที่ 1 นำผงฟู แป้งข้าวเจ้า น้ำตาล ผงโกโก้ ลงในชามผสมคนด้วยตะกร้อมือให้ทุกอย่างกระจายทั่ว

ขั้นตอนที่ 2 เติมนมค่อย ๆ ผสม และเมื่อไม่เหลือผงใด ๆ จับเป็นก้อน และจึงเติมกลิ่นวนิลา คนให้เข้ากัน

ขั้นตอนที่ 3 เติมช็อกโกแลต 2/3 ส่วนของในสูตร ลงไป คนให้ละลายจนทั่ว แล้วจึงเทลงพิมพ์และโรยช็อกโกแลตอีกครั้ง

ขั้นตอนที่ 4 นึ่งลงในซึ้งที่มีน้ำเดือดให้แป้งพอที่สุก และนึ่งต่อโดยการวางถ้วยลงในส่วนของตัวหม้อใส่น้ำที่รองด้วยทิชชู่ ประมาณ 10-12 นาที จนได้แป้งฟูขึ้นมา ก็สามารถนำออกมาจากหม้อ และพักให้เย็น พร้อมรับประทาน

รู้สึกอยากทำตามกันเลยใช่ไหมละกับคัพเค้กสูตรง่าย ๆ แบบนี้  นอกจากจะเป็นคัพเค้ก ที่ไม่ต้องง้อเตาอบแล้วยังเป็นคัพเค้ก ไม่ใส่ไข่ และนมที่ใช้ยังเป็นนมอัลมอนด์ หากใครที่กำลังหาสูตรสำหรับมังสวิรัติ หรือเจ ที่ไม่ทานไข่และนม อาจนำสูตรนี้ไปลองทำได้เหมือนกัน

Categories
ขนมไทย

มารู้จักกับขนมไทยอย่าง ขนมใส่ไส้ กัน

เอกลักษณ์ของขนมไทยมีมากมายและ ขนมใส่ไส้ เป็นหนึ่งในนั้น โดยที่ความจริงแล้วขนมชนิดนี้สามารถทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน มาดูกันดีกว่าว่าวิธีการทำใส่ไส้สดหรือวิธีทำไส้มะพร้าวจะมีขั้นตอนอย่างไร รับรองว่ารู้แล้วคุณจะอยากเข้าครัวไปทำกันอย่างแน่นอน

วัตถุดิบ ขนมใส่ไส้

น้ำตาลปี๊ป   200      กรัม

เกลือป่น    ½         ช้อนชา (สำหรับไส้)

เกลือป่น   1          ช้อนชา (สำหรับกะทิ)

มะพร้าวทึนทึกขูด

แป้งข้าวเหนียว   350      กรัม

น้ำใบเตยปั่นละเอียด   300      มิลลิลิตร

กะทิ   800      มิลลิลิตร

แป้งข้าวเจ้า   80        กรัม

กลิ่นมะลิ    1          ช้อนชา

ไม้กลัด

ใบตองห่อ

วิธีทำขนมใส่ไส้

1. ตัดใบตองออกมาเป็นสองขนาด 5 นิ้วกับ 4 นิ้ว และนำไปลนไฟเล็กน้อยเพื่อให้ง่ายต่อการห่อ

2. นำมะพร้าวขูด เกลือ น้ำตาลปี๊บ กวนในกระทะด้วยไฟอ่อนประมาณ 20 นาที จนแห้ง แล้วปิดไฟพักเอาไว้

3. เริ่มผสมแป้งข้าวเหนียวกับน้ำใบเตย นวดจนแป้งเป็นก้อน แรปเอาไว้ด้วยพลาสติก

4. นำกะทิ ¼ ของทั้งหมดมาผสมกับแป้งข้าวเจ้า เกลือ กลิ่นมะลิ จากนั้นนำลงกระทะแล้วคนให้เข้ากัน เมื่อแป้งไม่จับตัวเป็นเม็ดแล้วให้เริ่มใส่กะทิส่วนที่เหลือลงไป คนเรื่อย ๆ จนเหนียวแล้วปิดไฟพักไว้

5. เมื่อไส้เริ่มเย็นให้เอามาปั้นเป็นก้อนกลม 1 นิ้ว จากนั้นปั้นแป้งอีกส่วนใหญ่กว่าเพื่อคลุมไส้ให้หมด

6. เริ่มห่อใบตอง ราดด้วยน้ำกะทิ แล้วคาดด้วยมะพร้าว จากนั้นเริ่มกลัด 7. นิ่ง 30 นาที จากนั้นเมื่อสุกพักไว้จนเย็นแล้วพร้อมเสิร์ฟ

บอกเลยว่าขนมไทยอย่างขนมใส่ไส้นั้นทานง่ายอร่อยเพลินเป็นอย่างมากและถ้าใครอยากลองเข้าครัวทำใส่ไส้สดด้วยตัวเอง หรือเรียนรู้วิธีทำไส้มะพร้าวแบบที่สามารถปรับลดเพิ่มได้เองนั้นต้องลองนำสูตรนี้ของเราไปใช้กันดูรับรองว่าอร่อยแน่นอน

Categories
ขนมคลีน

ขนมคลีนช่วงบ่ายกับคุ้กกี้ธัญพืช

สำหรับการทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันมีเวลาในช่วงบ่าย ๆ ที่หลายคนอยากหาอะไรเคี้ยวเล่นเพื่อให้ตื่นหรือรองท้อง จะดีกว่าไหมถ้าคุณเลือกทานเป็น ขนมคลีน เพื่อให้ได้ประโยชน์ไปในเวลาเดียวกัน วันนี้เรามีเมนู คุ้กกี้ธัญพืช มาแนะนำสูตรและวิธีทำให้คุณได้รู้จัก พร้อมแล้วมาเริ่มเข้าครัวอบขนมทานกันเองได้เลย

วัตถุดิบของขนมคลีนคุ้กกี้ธัญพืช

น้ำมันมะพร้าว   ¼  ถ้วย

น้ำผึ้ง  ¼ ถ้วย

ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ด  1 ถ้วย

ข้าวโอ๊ตบดละเอียด  1 ถ้วย

แครนเบอร์รีอบแห้ง  2/3 ถ้วย

เมล็ดฟักทองดิบ   2/3 ถ้วย

เมล็ดแฟลกซ์   ¼ ถ้วย

เครื่องเทศ Pumpkin Pie Spice    1 ช้อนชา

เกลือป่น  ½  ช้อนชา

ฟักทองบด ½ ถ้วย

ไข่ไก่   2 ฟอง (ตีทิ้งไว้แบบพอให้ไข่แตก)

วิธีทำขนมคลีนคุ้กกี้ธัญพืช

1. เปิดเตาอบเพื่อวอร์มเตาเอาไว้ที่ที่อุณหภูมิ 325 องศาฟาเรนไฮต์ จากนั้นทำการปูกระดาษรองอบเอาไว้ที่ถาดอบเพื่อเป็นการเตรียมไว้รองอบคุ๊กกี้

2. เริ่มใส่น้ำมันมะพร้าวและน้ำผึ้งลงไปในชาม ควรใช้เป็นชามที่ทนความร้อน จากนั้นนำทั้งสองส่วนผสมไปเข้าไมโครเวฟ แบบพออุ่น เมื่อนำออกมาให้ทำการคนผสมให้เข้ากัน

3. ทำการผสมข้าวโอ๊ตทั้งสองชนิดแล้วตามด้วย แครนเบอร์รีอบแห้ง เมล็ดฟักทองดิบ เมล็ดแฟลกซ์ เครื่องเทศ และเกลือป่น คนผสมให้เข้ากัน

4. ใส่ฟักทองบดลงไปตามด้วยไข่ไก่ที่ตีเอาไว้พอแตกลงไปแล้วเริ่มคนให้เข้ากันอีกรอบหนึ่ง

5. เมื่อทุกส่วนผสมเข้ากันดีให้เริ่มนำที่ตักไอศกรีมมาตักคุกกี้ไปวางบนถาดอบที่ปูกระดาษเอาไว้เรียบร้อย จากนั้นนำเข้าเตาอบ ใช้เวลาอบประมาณ 15-20 นาที เมื่อคุกกี้สุกแล้วให้นำออกมาพักไว้สักครู่ เมื่อเริ่มเย็นสามารถทานได้ทันที

ถ้าคุณคือหนึ่งคนที่ชอบทานคุกกี้ธัญพืชเนยสด แต่อยากหันมาทานขนมคลีนอย่าง คุ้กกี้ธัญพืช กันบ้างเราขอแนะนำว่าคุกกี้ธัญพืชข้าวโอ๊ตที่เราแนะนำไปในวันนี้เหมาะจะเป็นขนมยามว่างไว้เคี้ยวเพลิน ๆ ทานแบบรองท้องกันมากที่สุดเมนูหนึ่งเลยทีเดียว

Categories
ขนมหวาน

ดับร้อนด้วย วุ้นกะทิมะพร้าว ทานแล้วสดชื่นไปกับรสชาติหวานมันหอมละมุน

มาดับร้อนแทน แต่ต้องเมนูที่ได้ทั้งความหวานอร่อย และถ้าเย็น ๆ ด้วยจะดีมาก วันนี้จึงขอเสนอ เมนู วุ้นกะทิ มะพร้าวอ่อน เมนูวุ้นกะทิที่เมื่อนำไปแช่เย็น แล้วนำออกมาจากตู้เย็นก็จะพร้อมทาน หวานหอมอร่อยแบบที่ต้องการ กัดไปหนึ่งคำได้สัมผัสชิ้นเนื้อมะพร้าวอ่อนกรุบกรอบอยู่ภายในตัววุ้นที่เนื้อเด้งนุ่ม แต่ก่อนจะทานได้ ก็ต้องรู้วิธีทำวุ้นกะทิกันก่อน ตามมาดูกันเลย

ส่วนประกอบของวุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน

  1. มะพร้าวน้ำหอม 1 ลิตร
  2.  กะทิ 600 มิลลิลิตร
  3. เนื้อมะพร้าวน้ำหอมหั่นเป็นเส้น 400 กรัม
  4. น้ำตาลทรายขาว 150 กรัม
  5. ผงวุ้น ตรานางเงือก 15 กรัม อาจเพิ่มลดได้ตามความชอบเนื้อสัมผัสของวุ้น 
  6. เกลือป่น

วิธีทำของวุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน

ขั้นตอนที่ 1 กรองน้ำมะพร้าวด้วยผ้าขาวบางจนได้น้ำมะพร้าวที่ใส จากนั้นเทลงหม้อ และค่อย ๆ โปรย ผงวุ้น ตามที่ต้องการ  รอประมาณ 2 นาที เพื่อให้ผงวุ้นจมลงไปในน้ำ จากนั้นนำไปตั้งไฟปานกลาง ระหว่างต้มให้คนไปด้วยตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ผงวุ้นไหม้ติดก้นหม้อ ต้มต่อไปจนเดือด หลังจากเดือดต้มต่อประมาณ 2-3 นาที

ขั้นตอนที่ 2 เติมน้ำตาลทรายขาวลงไป และเกลืออีกเล็กน้อย คนต่อไปจนน้ำตาลทรายละลายหมด แล้วจึงใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป และต้มต่อจนน้ำเดือดอีกรอบ เพื่อให้เนื้อมะพร้าวนุ่มลงอีก

ขั้นตอนที่ 3 เติมหัวกะทิลงในหม้อเป็นอย่างสุดท้าย และปิดไฟ จากนั้นคนให้เข้ากัน

ขั้นตอนที่ 4 ตักใส่พิมพ์ตามที่ต้องการ รอให้วุ้นเซตตัว แล้วจึงแกะออกมาจากพิมพ์ ก่อนรับประทานนำไปแช่เย็นก่อนอีกทีเพื่อเพิ่มความอร่อยในการรับประทานได้  

จบกันไปกับ วุ้นกะทิสูตรง่าย ๆ ทำเองได้ที่บ้านที่นำมาฝากกันวันนี้ หากใครไม่อยากทานแค่ วุ้นกะทิ อาจจะเพิ่มลูกเล่นเป็นวุ้นกะทิชั้นหนึ่ง ส่วนอีกชั้นอาจจะเป็นวุ้นใสรสชาติอื่น เช่น วุ้นกะทิใบเตย วุ้นกะทิน้ำแดง เป็นต้น ก็สามารถทำได้

Categories
ขนมเจ

วุ้นลูกแก้วผลไม้ สไตล์ญี่ปุ่น ที่หากคุณทานเจอยู่ก็สามารถทานได้

วันนี้เราจะขอมาพูดถึงหนึ่งในขนมเจที่หากใครอยากจะลองเริ่มทำขนมซักอย่าง ขนมชนิดนี้ทำง่ายมาก นั่นก็ คือ วุ้นลูกแก้วผลไม้ นั่นเอง สงสัยกันแล้วแน่เลย ว่าวุ้น เจไหม? คำตอบคือ เจ แน่นอน เพราะผงวุ้นทำมาจากสาหร่ายทะเล แต่ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบหรือสูตรด้วย หากใส่นมสดจากวัวด้วยก็จะไม่เจแล้ว ในเมื่อวันนี้เรามาแนะนำเมนูขนมเจ เราจึงขอเสนอ วุ้นลูกแก้วผลไม้ซึ่งเป็นวุ้นลูกแก้วผลไม้สไตล์ญี่ปุ่น น่ารัก ๆ ดูทานง่าย แถมหน้าตาดีอีกด้วย ส่วนผสมในวุ้นลูกแก้วผลไม้นี้ก็ล้วนเป็นของเจทั้งสิ้น

ส่วนประกอบของวุ้นลูกแก้วผลไม้

  1. ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
  2. น้ำเปล่า 2  3/4 ถ้วยตวง
  3. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
  4. ผลไม้สดหั่นชิ้นเล็ก ๆ 1 ถ้วยตวง

กลิ่นผลไม้ ตามที่ต้องการ    2 – 3 หยด

วิธีทำ วุ้นลูกแก้วผลไม้

ขั้นตอนที่ 1 เติมน้ำเปล่าลงในหม้อ และเติมผงวุ้นลงไป จากนั้นคนให้ผงวุ้นกระจายทั่ว ๆ และพักไว้ประมาณ 10 นาที

ขั้นตอนที่ 2 นำหม้อวุ้นไปตั้งไฟกลาง คนไปเรื่อย ๆ จนเดือด เติมน้ำตาลทรายลงไป ลงไปเรื่อย ๆ จนเดือด

ขั้นตอนที่ 3 เมื่อวุ้นเดือดแล้ว ให้ลดไฟลงมาเป็นไฟอ่อน ต้มต่ออีกประมาณ 10 นาที เมื่อน้ำวุ้นเริ่มใส ให้ทำการปิดไฟ และนำไปกรอง กรองเสร็จพักไว้รอเย็นอีกประมาณ 5- 7 นาที แต่งกลิ่นด้วยกลิ่นผลไม้ที่ต้องการ

ขั้นตอนที่ 4 เทลงพิมพ์ทรงกลมเพื่อให้ได้รูปทรงเป็นลูกแก้ว และเมื่อวุ้นเริ่มเซตตัวเล็กน้อย ให้ใส่ชิ้นผลไม้ลงไป และนำวุ้นที่เหลือเทลงในพิมพ์ ปิดพิมพ์และนำไปแช่เย็น เป็นเวลา 20-30 นาที ก็จะได้วุ้นลูกแก้วผลไม้ออกมาแล้ว

เมนูนี้ดูทำง่ายใช่ไหมเอ่ย วิธีทำที่เราคัดมาให้เป็นวิธีทำวุ้นผลไม้แบบง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็สามารถนำไปทำตามได้นะ แล้วก็หากใครอยากเพิ่มระดับความยากให้กับวุ้นลูกแก้วผลไม้ขึ้นไปอีกอาจจะทำเป็นแบบสองชั้น ชั้นหนึ่งเป็นวุ้นเต้าหู้นมถั่วเหลือง อีกชั้นเป็นวุ้นใส ก็ทำได้เช่นเดียวกัน อร่อยไปอีกแบบด้วย

Categories
ขนมคลีน

มาทำเมนูขนมคลีนรับมื้อเช้าไปกับแพนเค้ก

แพนเค้กคลีน

เมนู แพนเค้ก นั้นเป็นขนมกึ่งอาหารที่หลายคนคุ้นเคยกันดี แถมยังสามารถปรับเมนูให้เป็นได้ทั้งคาวและหวาน แต่ในวันนี้เราจะมาพูดถึง แพนเค้ก ในแง่มุมของการเป็นขนมคลีนกัน มาลองดูกันว่าจะเป็นแพนเค้กไข่ขาวคลีนหรือแพนเค้กกล้วยน้ำว้า พร้อมแล้วมาเก็บสูตรกันเลยดีกว่า

วัตถุดิบในการทำขนมคลีนแพนเค้ก

แป้งโฮลวีท 1 ถ้วย

ข้าวโอ๊ต ½ ถ้วย

เกลือป่น ¼ ถ้วย

ผงฟู 2 ช้อนชา

ผงอบเชย 1 ช้อนชา

ไข่ไก่ 1 ฟอง

นมสด 1 ถ้วย

น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ

กรีกโยเกิร์ต ¼ ถ้วย

กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

ช็อกโกแลตชิพ ½ ถ้วย

ผลไม้    (สำหรับตกแต่ง)

วิธีทำขนมคลีนแพนเค้ก

1. เริ่มจากการผสมแป้งโฮลวีทให้เข้ากับข้าวโอ๊ต เกลือ ผงฟู อบเชย เมื่อเข้ากันดีแล้วให้พักไว้ก่อน

2. เริ่มตีไข่กับนมให้เข้ากัน จากนั้นตามด้วยน้ำตาลทราย กรีกโยเกิร์ต ตีให้เข้ากันจนเนียน แล้วใส่กลิ่นวานิลลาลงไป เมื่อครบทุกส่วนผสมแล้วให้ตีจนเข้ากัน

3. ใส่ช็อคโกแลตชิพลงไปและคนให้ทุกส่วนผสมเข้ากัน

4. เข้าสู่ขั้นตอนของการเริ่มทอดแพนเค้กด้วยการตักแป้งประมาณ ¼ ถ้วยลงไปในในกระทะ รอประมาณ 1 นาทีแล้วพลิกด้าน เมื่อสุกทั้งสองด้านสามารถเสิร์ฟได้เลย

เมนูนี้สามารถเพิ่มกล้วยน้ำว้าเข้าไปจนเป็นแพนเค้กกล้วยน้ำว้าได้ แต่ถ้าอยากให้เป็นแพนเค้กไข่ขาวคลีนแล้วล่ะก็อาจจะทำให้ความฟูและนิ่มน้อยลงอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตามขนมคลีนแพนเค้กนี่ก็เป็นที่น่าทำตามเพื่ออิ่มท้อง อร่อย และได้ประโยชน์กันเหมือนเดิม

Categories
ขนมไทย

มาเรียนรู้วิธีทำ ลูกชุบขนมไทยยอดฮิตไปพร้อมกัน

เชื่อเลยว่า ขนมลูกชุบ น่าจะเป็นขนมไทยที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่น้อยคนจะที่จะรู้ว่าขนมชนิดนี้มีวิธีทำอย่างไร วันนี้เราจะมาแนะแนวทางวิธีทำลูกชุบ แบบใช้พิมพ์เพื่อปั้นลูกชุบไม่ให้แตกกัน บอกเลยว่าการทำขนมชนิดนี้คุณสามารถที่จะทำกันเป็นกิจกรรมครอบครัวสานสัมพันธ์ และเกิดความสนุกสนานได้อีกด้วย พร้อมแล้วมาเริ่มทำไปด้วยกันเลยดีกว่า

วัตถุดิบในการทำลูกชุบขนมไทย

ถั่วเขียวเลาะเปลือกพร้อมนึ่ง  500 กรัม

น้ำตาลทราย 300 กรัม

หัวกะทิ 1 ถ้วย

สีผสมอาหาร  จำนวนตามใจชอบ

ผงวุ้น

วิธีทำลูกชุบ

1. นำถั่วเขียวหนึ่งที่เตรียมไว้มาปั่นรวมกับน้ำตาลและกะทิจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน

2. นำส่วนผสมที่เข้ากันดีแล้วมาเทลงในกระทะจากนั้นทำการเคี่ยวจนถั่วปั้นเป็นลูกได้

3. เตรียมถ้วยมาให้เท่ากับจำนวนของสีผสมอาหารที่คุณต้องการ พร้อมทั้งเตรียมอุปกรณ์การระบายสีเอาไว้ให้เรียบร้อย

4. จากนั้นเตรียมเริ่มทำการตกแต่งด้วยการหาไม้ปลายแหลมมาเสียบที่ก้อนถั่ว โดยการปั้นก้อนถั่วเป็นรูปต่าง ๆ ที่ต้องการ และทำการเสียบพักไว้

5. เมื่อปั้นเรียบร้อยตามที่ต้องการคุณสามารถเริ่มตกแต่งแล้วนำไปตากให้สีแห้งกันได้เลย 6. ทำการละลายผงวุ้นแล้วนำขนมที่สีแห้งมาชุบ เพื่อให้เกิดความเงาขึ้น และถ้าคุณต้องการความหนาสามารถชุบซ้ำสองรอบได้

ลูกชุบ ถือเป็นขนมไทยที่ได้รับความนิยมและมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ยิ่งถ้าคุณนั้นทำด้วยวิธีทำ ลูกชุบ แบบใช้พิมพ์ และยังเรียนรู้การปั้นลูกชุบไม่ให้แตกอย่างชำนาญแล้วรับรองว่าคุณจะสนุกและอาจทำเมนูนี้ขายเป็นอาชีพเสริมกันได้เลยทีเดียว

Categories
ขนมหวาน

ขนมครองแครงกะทิสด ขนมไทยหน้าตาชวนรับทาน รสชาติหวานกำลังพอดี

มาทำความรู้จักขนมไทยโบราณที่หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเหมือนตัวหนอนปล้อง ๆ สีสันสวยงามที่ลอยอยู่ในน้ำกะทิโรยหน้าด้วยงาขาวสุดหอม อย่างครองแครงกะทิสด เมนูที่ประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญอย่างตัวครองแครง ที่ทำจากแป้งมันเมื่อต้มแล้วจะให้ความหนึบหนับ มีสีสันออกมาตามสีที่แต่งลงไป อย่างสูตรที่เป็นครองแครงอัญชันน้ำกะทิ เพราะนำอัญชันมาแต่งสีเป็นสีฟ้าเข้มและอ่อน ส่วนต่อไปขึ้นน้ำกะทิที่หวานมันเค็ม และปิดท้ายด้วยงาขาวคั่วเพิ่มความหอมชวนให้น่าทานขึ้นไปอีก

ส่วนประกอบ

  1. ดอกอัญชันสด 50 กรัม
  2. น้ำเปล่า 600 มิลลิลิตร
  3. แป้งมัน 1500 กรัม
  4. หัวกะทิ 1000 กรัม
  5. ใบเตย 20 ใบ
  6. น้ำมะพร้าวน้ำหอมและเนื้อมะพร้าว 1 ผล *น้ำจะต้องหวานพอดีไม่มีเปรี้ยวปน
  7. น้ำตาล 300 กรัม
  8. เกลือ    1 ช้อนชา
  9. งาขาวคั่ว 100 กรัม *ควรคั่วสดใหม่ก่อนนำมาใช้โรยหน้า

วิธีทำ

ขั้นตอนที่ 1 ต้มน้ำอัญชันเพื่อแต่งสีครองแครง โดยตั้งน้ำให้เดือด จากนั้นใส่อัญชันที่ล้างสะอาดแล้วลงไป รอจนน้ำเดือดและสีอัญชันออกมา แล้วจึงปิดไฟนำลงมาจากเตา แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนที่สีเข้มเป็นน้ำอัญชันทั้งหมด และสีอ่อน เป็นน้ำอัญชันผสมน้ำเพิ่มเพื่อเจือให้สีจางลง

ขั้นตอนที่ 2 ร่อนแป้งมันลงในกะละมังผสมอย่าลืมแบ่งเป็นสามส่วนสำหรับสามสี ส่วนแรกก็ใส่น้ำอัญชันสีเข้มลงไปนวดกับแป้งให้เนื้อเนียนเหนียวเป็นเนื้อเดียวกัน และหาอะไรปิดไว้ไม่ให้แป้งเจอกับอากาศโดยตรงเพราะจะทำให้แป้งแข็งได้ สำหรับส่วนที่สองและสาม ให้ใส่น้ำอัญชันที่เจือกับน้ำเพื่อทำสีฟ้าอ่อน และน้ำต้มสุกอย่างเดียวเพื่อทำสีขาวใส ตามลำดับ

ขั้นตอนที่ 3 นำพิมพ์ครองแครงมาจากนั้นโรยแป้งบาง ๆ ลงบนพิมพ์แล้วจึงวางแป้งที่นวดไว้แต่ละสีปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ รี ๆ มากดลงบนพิมพ์ ระหว่างที่ทำตัวครองแครงให้ตั้งน้ำ เพื่อต้มรอไว้

ขั้นตอนที่ 4 เมื่อน้ำเดือด จึงใส่ตัวครองแครงที่ร่อนแป้งที่เกาะอยู่ออกแล้ว ลงไปต้ม รอให้ลอยขึ้นมา และตักลงในน้ำเย็นทันที แป้งจะคงความนุ่มหนึบสีสวย

ขั้นตอนที่ 5 เตรียมหัวกะทิจะมะพร้าวขูดคั้นสด ระหว่างอย่าให้มีเศษกะลามาปน สีของน้ำกะทิจะดูไม่ขาวสวย และนำหัวกะทินั้นไปตั้งไฟอ่อน และเด็ดใบเตยใส่ลงไป จากนั้นตามด้วยน้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าว ปิดจบด้วยการเติมน้ำตาลและเกลืออีกเล็กน้อย พอให้มีรสชาติความเค็ม เคี้ยวต่อไป โดยระวังไม่ให้กะทิแตกมัน

ขั้นตอนที่ 6 ช้อนใบเตยขึ้นมา และใส่ตัวครองแครงลงไปคนในกะทิ คนต่ออีก 2-3 นาที แล้วจึงนำมาตักใส่ถ้วย ก่อนเสิร์ฟโรยงาขาวที่คั่วสดใหม่ เพื่อความหอมมันให้กับเมนูนี้

หากใครอยากลองนำเมนูครองแครงกะทิสดไปทำตามและอยากเปลี่ยนแปลงสีสันไม่ชอบสีน้ำเงินก็อาจหาสีธรรมชาติอย่างใบเตยที่ให้สีเขียว หรือแครอทม่วงที่ให้สีม่วง มาแต่งสีแทนอัญชันได้ และหากสูตรนี้หวานเกินไปก็ปรับสูตรตามที่คุณต้องการได้เช่นเดียวกัน

Categories
ขนมเจ

เบื่อแล้วขนมปังเจสำเร็จรูป มาลองอบ ขนมปังโฮลวีตมันม่วง สูตรเจไว้ทานเองกันดีกว่า

ช่วงทานเจ หลายคนก็จะซื้อเมนูจากในร้านสะดวกซื้อ ใส่ไมโครเวฟ พร้อมทานใช้เวลาไม่นานได้ทานทันที หรือบางคนก็อาจจะเดินไปที่ชวนขนมปังที่เดี๋ยวนี้มีขนมปังสูตรเจออกมาวางขายมากขึ้น ส่วนผสมที่สำคัญของการทำขนมปังที่แบ่งระหว่างขนมปังเจกับขนมปังธรรมดา คือ ไข่ไก่ หรือเนยที่เป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์

ดังนั้นหากคุณอยากจะลองเปลี่ยนจากซื้อทานแบบสำเร็จรูปมาลองทำเองจะต้องหาสูตรขนมปังที่ไม่มีส่วนผสมที่กล่าวมา วันนี้เราจึงขอนำเสนอเมนู ขนมปังโฮลวีตมันม่วง เบเกอรี่เจ เนื้อฟูนุ่มหนึบสีม่วงสวยงาม น่าทาน ที่ต้องใช้สกิลและความพยายามในการทำซักนิด ไว้ทานแก้เบื่อกับขนมปังที่ซื้อทานเอง มาลองดูสูตรขนมปังเจสูตรนี้กันเลย

ส่วนประกอบของ ขนมปังเจ

  1. แป้งโฮลวีทแบบละเอียด 350 กรัม
  2. มันม่วงนึ่งบด 150 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำเต้าหู้ 220 กรัม
  5. ยีสต์ 1 + 1/4 ช้อนชา
  6. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  7. น้ำมันพืช 50 กรัม
  8. น้ำเต้าหู้  สำหรับทาลงบนแป้งก่อนอบ
  9. มาการีน  สำหรับทาบนขนมปังหลังอบ

วิธีทำขนมปังเจ

ขั้นตอนที่ 1 นำมันม่วงที่นึ่งสุกแล้วมาปั่นกับน้ำเต้าหู้ให้เหมือนได้มันบดแล้วใส่ลงในชามผสม

ขั้นตอนที่ 2 ใส่น้ำมันพืช (เสมือนแทนเนยละลายในสูตรขนมปังปกติ) ตามด้วยเกลือ น้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน แล้วจึงใส่ยีสต์ และแป้งโฮลวีตตามลงไป ค่อยๆ นวดผสมด้วยมือไปประมาณ 10-15 นาทีจนได้แป้งโดที่เนียนและไม่ติดมือ เมื่อเสร็จแล้วทาน้ำมันที่ขามผสมและพักแป้งไว้ให้แป้งฟูขึ้นมาอีกเป็นเท่าตัว

ขั้นตอนที่ 3 เริ่มเปิดเตาอบไว้ที่ 170 องศาเซลเซียส และนำแป้งมานวดต่อเพื่อไล่ลมในแป้งให้หมด รีดเป็นแผ่นและม้วนเป็นก้อน และนำไปใส่ในพิมพ์ พักแป้งไว้ รอให้ฟูขึ้นมาอีกเป็นเท่าตัวเหมือนกันจากนั้น ทาน้ำเต้าหู้ลงบนแป้งก่อนนำไปอบ

ขั้นตอนที่ 4 นำไปอบในเตาอบที่ 170 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที จากนั้นทาด้วยมาการีน รอจนขนมปังเย็นลง จึงรับประทานได้

หลังจากที่ทุกคนอ่านสูตรที่เรานำมาฝากกันแล้ว อย่าเพิ่งตกใจกับคำว่ามาการีนในสูตรนะ เพราะมาการีนนั้นทำมาจากน้ำมันพืช อาจเรียกเนยเทียม หรือเนยสูตรเจก็ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอ่านส่วนผสมในมาการีนให้ดีก่อนซื้อด้วย หวังว่าเมนูขนมปังเจสูตรนี้จะพาให้ทุกคนฟินไปทานอาหารเจ และมีเมนูอาหารว่างเจไว้ทานแก้หิวนะ

Categories
เค้ก

ชวนมาทำเค้กส้ม สูตรหน้านิ่ม ให้หายคิดถึงเค้กคาเฟ่ที่เราเคยได้นั่งทาน

ช่วงนี้ต้องอยู่แต่บ้าน ไม่ได้ออกไปใช้ชีวิตเที่ยวคาเฟ่ จิบชากาแฟ ทานขนมหวาน ถ่ายรูปเก๋ เลย คอขนมหวานเป็นอันน้ำตาคลอหน่อย ๆ กันเลยทีเดียว แต่ไม่ว่าอะไรก็ตามก็ไม่สามารถขัดขวางการทานเค้กของเราได้ เมื่อออกไปทานที่ร้านไม่ได้ ก็ทำเองซะเลย วันนี้หากใครที่กำลังคิดถึงเค้กคาเฟ่หลากหลายรสชาติ เราจึงขอนำเมนู เค้กส้มหน้านิ่ม มาฝากทุกคน หวังให้เค้กส้ม สูตรนี้พอจะมาทดแทนความคิดถึงเค้กส้มอร่อย ๆ ตามคาเฟ่ได้

ส่วนประกอบของเค้กส้ม

ส่วนของแป้งเค้ก

1. แป้งเค้กอเนกประสงค์ 35 กรัม

2. ผงฟู 1/4 ช้อนชา

3. น้ำตาลทราย 25 กรัม

4. นมสด 20 กรัม

5. ไข่ไก่เบอร์ 0  1 ฟอง

6. SP 1/4 ช้อนชา

7. เนยสดละลาย 25 กรัม

8. กลิ่นส้ม 1 ช้อนชา

ส่วนของซอสส้ม

1. น้ำสะอาด 150 กรัม

2. น้ำส้มซันควิกฝาเขียว 40 กรัม

3. น้ำตาลทราย 30 กรัม

4. แป้งกวนไส้ 8 กรัม

5. เนยสดรสเค็มหั่นเต๋า 10 กรัม

6. สีผสมอาหาร สีส้ม ขึ้นอยู่กับความต้องการ

7. ผลไม้ตกแต่ง เช่น ส้ม กีวี่ เป็นต้น

วิธีทำของเค้กส้ม

ขั้นตอนที่ 1 ผสมผงฟูกับแป้งเค้กรวมกัน และร่อนด้วยตะแกรง จำนวน 2 ครั้ง และพักไว้ก่อน

ขั้นตอนที่ 2 นำถ้วยใส่นมสด ใส่กลิ่นส้ม คนผสมให้เข้ากัน

ขั้นตอนที่ 3 ตอกไข่ไก่ลงในชามผสม ตามด้วย SP และใช้ตะกร้อมือตีจนไข่ฟูประมาณเท่าที่ควร จากนั้นค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทราย ตีต่อไปจนสีอ่อนลง และดูเงาขึ้น ตรวจสอบว่าของที่ผสมใช้ได้หรือยัง โดยใช้พายยางกรีดลงไป หากคงตัวอยู่ได้ ไม่มีส่วนที่เหลวเป็นน้ำ ถือว่าใช้ได้แล้ว

ขั้นตอนที่ 4 เติมนมที่ผสมกับกลิ่น ลงในชามผสมที่มีไข่อยู่ ตีด้วยความเร็วต่ำ ๆ เมื่อเข้ากันดีให้ใส่แป้งที่ร่อนแล้วตามลงไป และผสมต่อจนทุกอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน สุดท้ายจึงค่อย ๆ เทเนยละลายอุ่น ๆ ลงไป และจึงเทลงพิมพ์/ถ้วยฟอยล์

ขั้นตอนที่ 5 อบด้วยเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ไฟบนล่าง เป็นเวลา 7- 10 นาที เมื่ออบเสร็จพักไว้ให้เย็นตัวลง

ขั้นตอนที่ 6 เตรียมซอสส้มสำหรับราดบนหน้าเค้ก โดยเติมน้ำสะอาด น้ำส้ม น้ำตาลทราย แป้งกวนไส้ และสีส้ม ลงไปในหม้อต้ม และตั้งไฟอ่อน  ค่อย ๆ เคี่ยวไป จนมันหนืดขึ้น พยายามอย่าคนผสมแรงเกินไปเดี๋ยวมีฟอง เมื่อเริ่มเห็นว่าเดือดเล็กน้อยให้ยกลงจากเตา เติมเนยอุ่น ๆ ลงไป และคนให้เข้ากัน

ขั้นตอนที่ 7 เทซอสส้มลงบนหน้าเค้ก และตกแต่งด้วยผลไม้ เช่น เนื้อส้ม กีวี่ เป็นต้น เป็นอันเสร็จ

สุดท้ายนี้นอกจากเค้กส้มสูตรนี้จะทำให้ทุกคนฟินไปกับขนมหวานอร่อย ๆ และหายคิดถึงคาเฟ่แล้ว ก็มีอีกไอเดียที่อยากบอกต่อ นั่นก็คือ เค้กส้มวันเกิด ใช่แล้ว ใครกำลังอยากทำเค้กวันเกิดให้คนในครอบครัว ลองนำไปทำเซอร์ไพร์สคนที่คุณรักด้วยเค้กรสชาตินุ่ม ๆ หอมกลิ่นส้มกันดูได้เลย